ความสวยความงามถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้ามแม้แต่น้อย โดยเฉพาะการ “ เสริมดั้งจมูกผู้หญิง ” ควรเลือกรูปทรงจมูกให้ดีก่อนตัดสินใจ เพราะสามารถช่วยเสริมเสน่ห์ให้กับใบหน้าได้อย่างเต็มที่ และช่วยทำให้เพิ่มความมั่นใจได้ยิ่งขึ้นนั่นเองครับ เพื่อให้ผู้หญิงที่สนใจเกี่ยวกับการเสริมดั้งจมูกมีข้อมูลที่เพียงพอ ผมจึงได้รวบรวมสิ่งที่ควรรู้ไว้ในบทความนี้
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
Toggleการเสริมดั้งจมูก(Rhinoplasty) คือ การผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อตกแต่งรูปทรงจมูก ให้ดูโด่ง สวย หรือปรับโครงสร้างของจมูกให้เข้ากับใบหน้า โดยการเสริมวัสดุ เช่น ซิลิโคน(Silicone) กอร์เท็กซ์ (Gore-tex) เม็ดพอร์ (Medpor) หรือกระดูกอ่อนหลังใบหู และเนื้อเยื่อเทียม ซึ่งล้วนเป็นที่นิยมสำหรับการเสริมความงาม
การเสริมดั้งจมูกนอกจากจะสามารถเสริมความงามได้แล้ว ยังสามารถช่วยในด้านอื่นได้อีก เช่น การเสริมโหงวเฮ้ง ความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด ผลกระทบจากอุบัติเหตุ รวมถึงแก้ไขจมูกที่ผิดปกติ ไม่ได้สัดส่วน ช่วยทำให้เพิ่มความมั่นใจ และปรับสมดุลใบหน้าของคนได้ดียิ่งขึ้นครับ
ฉะนั้นการมีจมูกโด่งเป็นสันดูสวยงาม จะยิ่งช่วยทำให้ใบหน้าดูมิติ น่ามอง อีกทั้งยังช่วยเสริมความมั่นใจในการดำเนินชีวิตประจำวัน การทำงาน และมั่นใจในการอวดรูปหน้าได้อย่างเต็มที่ เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีปัญหา เช่น จมูกเบี้ยว จมูกไม่เข้ารูป หรือไม่ได้รูปทรงครับ แต่การเสริมดั้งจมูกนั้น ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ เพื่อความปลอดภัยในการรักษา รวมถึงผลลัพธ์ความพึงพอใจของคนไข้ทุกท่านด้วยนั่นเองครับ
สาเหตุที่ต้องทำดั้งจมูกทรงผู้หญิง ก็เพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างภายใน หรือแก้จมูกใหม่ เพื่อช่วยปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติ แต่ถึงอย่างไรการเสริมดั้งจมูกทรงผู้หญิง ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะจะสามารถวิเคราะห์ และแนะนำรูปทรงจมูกได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากทรงจมูกที่สวยจะทำให้ใบหน้าดูโดดเด่น ส่วนสาเหตุที่คนไข้ต้องเสริมดั้งจมูกทรงผู้หญิงมีดังนี้
ซึ่งสาเหตุดังกล่าวสามารถแก้ไขได้โดยการศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกทรงผู้หญิง เพื่อปรับลุค และรูปทรงจมูกให้ดูเข้ากับโครงหน้าของคนไข้ครับ
การศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกผู้หญิงกำลังกลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยม ซึ่งเป็นเทคนิคเสริมความงามโดยการผ่าตัดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ฉะนั้นก่อนเข้ารับการรักษา จึงต้องศึกษาข้อมูลอย่างหลากหลาย การเสริมดั้งจมูกผู้หญิงจึงควรสังเกตว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถทำดั้งจมูกได้หรือไม่ ดังนี้ครับ
การเสริมดั้งจมูกมีอยู่หลากหลายรูปแบบครับ ซึ่งขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และรูปทรงจมูกเดิมของคนไข้ ว่ามีลักษณะแบบใด แต่การเสริมดั้งจมูกก็ยังมีวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทดังนี้
การศัลยกรรมกรรมเสริมดั้งจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty) จะเป็นการเสริมดั้งจมูกด้วยการกรีดเปิดแผลเล็ก ๆ ในรูจมูกเพียงด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อแพทย์จะสามารถแก้ไขความผิดปกติ ร่วมถึงการเพิ่มปริมาณจมูกเข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการ ตั้งแต่บริเวณสันจมูกจนถึงปลายจมูก โดยแพทย์ส่วนมากจะนิยมใช้กระดูกอ่อนหลังใบหู หรือเนื้อเยื่อไขมันมารองบริเวณปลายจมูก ซึ่งวิธีนี้จะทำให้มองไม่เห็นแผลผ่าตัด และช่วยลดปัญหาปลายจมูกทะลุได้ครับ
ถึงอย่างไรการเสริมดั้งจมูกแบบปิดก็ยังมีข้อจำกัด เนื่องจากวิธีนี้ไม่ได้เป็นการแก้ไขโครงสร้างทั้งหมด จึงเหมาะสำหรับคนไข้ที่มีจมูกรูปทรงเดิมดีอยู่แล้ว เช่น ฐานจมูกไม่ใหญ่จนเกินไป สันจมูกไม่แบนเรียบมากไป รวมถึงรูปทรงจมูกต้องไม่เบี้ยว และยาวสั้นมากเกินไป เพราะถ้าจมูกมีความหนาหรือเนื้อน้อย อาจมองเห็น ซิลิโคนเป็นแท่งชัดเจน ดูไม่เป็นธรรมชาติ และมีโอกาสที่ซิลิโคนจะทะลุได้ง่ายนั่นเองครับ
การศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกแบบเปิด หรือที่คนส่วนมากเรียกว่าเสริมจมูกแบบโอเพ่น จะเป็นการเสริมดั้งจมูกด้วยเทคนิค การปรับแก้ไขโครงสร้างภายในจมูก โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเปิดแผลบริเวณฐานจมูก เพื่อตกแต่งให้ฐานจมูกมีขนาดเล็กลง รวมถึงจัดกระดูกอ่อนในโพรงจมูก เช่น ฮัมพ์ สันจมูก และยังสามารถตัดปีกจมูกให้สวยงามเข้ากับรูปทรงใบหน้าได้อีกด้วยครับ
นอกจากนี้ยังสามารถใช้เนื้อเยื่อเทียม เนื้อเยื่อกระดูกอ่อนหลังใบหู มารองบริเวณปลายจมูก เนื่องจากช่วยลดการเสียดสี และความเสี่ยงในการทะลุ ทำให้คนไข้รู้สึกพึงพอใจ และปลอดภัยในผลลัพธ์อย่างแน่นอน ดังนั้นเทคนิคการเสริมดั้งจมูกแบบโอเพ่น จึงได้รับความนิยมค่อนข้างสูงในการแก้ไขปัญหาจมูกในปัจจุบันนั่งเองครับ
การผ่าตัดศัลยกรรมทุกหัตถการถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะล้วนมีความเสี่ยงต่อคนไข้ ยิ่งทำในสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจทำให้คนไข้ต้องเสียทั้ง เวลา เงิน และกลัวการศัลยกรรมได้เลย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวผมจึงขออณุญาตแนะนำว่าควรเสริมดั้งจมูกที่ไหนดี มีวิธีการเลือกยังไงบ้างดังนี้
การศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกส่วนมาก จะมีองค์ประกอบหลัก ๆ มาจากซิลิโคน(Silicon) แต่ไม่ใช้ซิลิโคนเกรดทั่วไป หรือแบบเดียวกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น ยานยนต์ บรรจุภัณฑ์ หรือวัสดุภัณฑ์ แต่จะเป็นซิลิโคนที่นำมาใช้ในวงการแพทย์เท่านั้น หรือที่เรียกกันว่า เมดิคัล เกรด ซิลิโคน (Medical Grade Silicone)ครับ
เนื่องจากมีการพัฒนาเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน และมีความปลอดภัยต่อผู้ที่สนใจเสริมดั้งจมูก ซึ่งซิลิโคนจะมีลักษณะนิ่มคล้ายกับกระดูกอ่อน ทำให้เมื่อเสริมดั้งจมูกไปแล้วจะสามารถบิดได้อย่างธรรมชาติเหมือนจมูกจริง ๆ รวมถึงมีการนำมาใช้ในรูปแบบศัลยกรรมตกแต่งความงามบนใบหน้าอีกด้วย เพราะซิลิโคนนั้นได้รับการออกแบบ ให้เป็นแบบสำเร็จรูป และมีรูปทรงต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสม และสะดวกต่อการใช้งานนั่นเองครับ
นอกจากนี้ซิลิโคนที่ใช้ในการศัลยกรรมผ่าตัดเสริมดั้งจมูก ยังมีในแง่ของเกรดซิลิโคน ที่สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทดังนี้
เป็นซิลิโคนที่มีความบริสุทธิ์สูง ได้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งเป็นการผลิตซิลิโคนเพื่อการศัลยกรรม อย่างเช่น ซิลิโคนจมูก ซิลิโคนคาง และซิลิโคนเสริมเต้านม เนื่องจากสามารถอยู่ได้ในร่างกายตลอดชีวิต
เป็นซิลิโคนที่มีความบริสุทธิ์น้อยกว่าซิลิโคนสำหรับปลูกฝังในร่างกาย แต่ยังสามารถเสริมดั้งจมูกได้ ถึงอย่างไรก็ยังคงมีความเสี่ยงในด้านทางการแพทย์ เพราะมีค่าเป็นพิษหากสะสมในร่างกายในระยะยาว แต่ก็ยังมีคนที่พึงพอใจกับประเภทนี้ เนื่องจากมีราคาที่ถูกครับ
ดังนั้นการเสริมดั้งจมูก หรือทำหัตถการอื่น ๆ คนไข้ควรศึกษาข้อมูล และรายละเอียดอย่างชัดเจน เพื่อความปลอดภัยของคนไข้ทุกท่านนั่นเองครับ
การเสริมดั้งจมูกส่วนมากจะนำซิลิโคนมาใช้ เนื่องจากได้รูปทรงที่แน่นอน และสามารถปรับให้เข้ากับจมูกได้ทุกรูปแบบอีกทั้งยังใช้เวลาในการพักฟื้นน้อย รวมถึงมีราคาที่ไม่สูงมากโดยซิลิโคนที่นำมาใช้มีอะไรบ้างไปดูกันครับ
เป็นซิลิโคนเสริมดั้งจมูกที่ขึ้นรูปมาสำเร็จแล้ว จะเหมาะกับคนไข้ที่เสริมดั้งจมูกเป็นครั้งแรก หรือในเคสที่คนไข้ต้องการปรับแก้ไขรูปทรงจมูก รวมถึงศัลยกรรมจมูกที่มีความผิดปกติได้ครับ
เป็นซิลิโคนเสริมดั้งจมูกที่ยังไม่ได้ผ่าตัดศัลยกรรมขึ้นรูปมาก่อน จึงทำให้ศัลยแพทย์สามารถศัลยกรรมจมูกโดยการออกแบบ และวางแผนโครงสร้างของรูปทรงจมูกได้ เพื่อให้ได้ซิลิโคนที่ตรงกับความต้องการของคนไข้ และตรงตำแหน่งที่ต้องการได้ดีมากขึ้น ถึงอย่างไรการเหลาซิลิโคนควรทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางขั้นสูง จะได้สามารถแก้ไขจมูกของคนไข้ที่มีปัญหา แกนจมูกเอียง หรือเบี้ยวได้อย่างละเอียดนั่นเองครับ
การเสริมดั้งจมูกในปัจจุบันนั้นกำลังเป็นกระแส ที่คนไข้ส่วนใหญ่ให้การยอมรับว่าสามารถเปลี่ยนแปลงรูปทรงใบหน้า และจมูกได้จริง อีกทั้งยังช่วยเสริมความมั่นใจให้กับหนุ่มสาวได้กล้าเปิดเผยใบหน้าเข้าสู่สังคมมากขึ้น โดยมีวัสดุซิลิโคนที่นำมาใช้จากหลากหลายประเทศในการเสริมดั้งจมูก ซึ่งซิลิโคนที่นิยมมีดังนี้
ซิลิโคนจากอเมริกานั้นจะมีลักษณะนิ่มเนียน ยืดหยุ่นได้ดีแต่ไม่นิ่มมากจนเกินไป ซึ่งทำให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถนำซิลิโคนมาเหลาเพิ่มเติม ให้ได้ทรงจมูกเน้นให้โด่งชัด หรือตามความต้องการของคนไข้ สำหรับคนไข้ที่ต้องการเสริมดั้งจมูกด้วยซิลิโคนจากอเมริกา จำเป็นต้องดูเนื้อจมูกเดิมของตัวเองก่อนว่ามีมากพอสำหรับการเสริมไหม เนื่องจากซิลิโคนไม่นิ่มมาก จึงอาจส่งผลระยะยาวอย่างการเสริมดั้งจมูกไปแล้ว เกิดการยุบตัวลงเพียงเล็กน้อยได้ครับ
ซิลิโคนญี่ปุ่นจะเป็นแท่งที่ได้มาตรฐานธรรมดา เนื่องจากวัตถุดิบบางอย่างนำเข้าจากญี่ปุ่น แต่ผลิตที่ประเทศไทย ซิลิโคนมีลักษณะสีเหลือง และค่อนข้างแข็ง คนไข้ที่ต้องการเสริมดั้งจมูกให้ดูธรรมชาติอาจไม่เหมาะกับซิลิโคนของญี่ปุ่นครับ
ซิลิโคนเกาหลีจะมีลักษณะที่ค่อนข้างนิ่มมาก ๆ มีสีเหลือง หรือสีน้ำตาลแดง อีกทั้งซิลิโคนเกาหลียังมีความโดดเด่นตรงช่วง โคน และปลายจมูกมีความนิ่ม และยืดหยุ่นได้สูง ส่งผลให้มีโอกาสทะลุได้น้อยเมื่อเสริมดั้งจมูกแล้วสามารถบิดได้ ทำให้ได้รูปทรงที่ดูเป็นธรรมชาติ ซิลิโคนเกาหลีจึงกลายเป็นตัวเลือกที่คนไข้ส่วนมากให้ความนิยมนำมาใช้เสริมดั้งจมูกนั่นเองครับ
รูปทรงจมูกถือเป็นสิ่งที่สำคัญบนใบหน้าสำหรับคนไข้หลายคน เพราะไม่ว่าจะยุคสมัยไหน การมีรูปทรงจมูกที่โด่ง สวย ดูเป็นธรรมชาติ ก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่ ซึ่งการเสริมดั้งจมูกมีอยู่หลายวิธี แต่วิธีที่คนไข้ให้การยอมรับ และได้รับความนิยมคงหนีไม่พ้นการฉีดฟิลเลอร์ และการผ่าตัดศัลยกรรม แต่ว่าแบบไหนละที่ดีกว่ากัน หรือว่าเหมาะกับคนไข้ที่สุด เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินวันนี้ผมจะมาบอกถึงความแตกต่างของสองหัตถการว่าเป็นอย่างไรดังนี้
การศัลยกรรมนั้นเป็นการผ่าตัดเพื่อปรับแต่งรูปทรงจมูกแบบถาวร ซึ่งในปัจจุบันมีเทคนิคที่หลากหลายรูปแบบมากขึ้น รวมถึงวัสดุที่นำมากใช้ก็มีความแตกต่างตามความพึงพอใจของคนไข้ แต่การศัลยกรรมเสริมดั้งจมูก จำเป็นต้องทำโดยศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น หากแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญ หรือขาดประสบการณ์ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ ปัญหาซิลิโคนทะลุ หรือได้รูปทรงจมูกที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งหากคนไข้ไม่พอใจในผลลัพธ์จำเป็นต้องทำการผ่าตัดใหม่อีกครั้ง ทำให้เสียเวลา และเงินทองจำนวนมากครับ
การฉีดฟิลเลอร์จมูกนั้น เป็นหนึ่งในวิธีที่ทำจมูกโด่งสวยแบบธรรมชาติ แถมมีความปลอดภัยสูงหากฉีดโดยใช้สารกลุ่ม ไฮยาลูโรนิค แอซิด คนไข้จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ในทันที และไม่ต้องพักฟื้น แต่ถว่าการฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้เหมือนกับการผ่าตัดศัลยกรรม เนื่องจากไม่สามารถทำให้รูปทรงจมูกอยู่ได้อย่างถาวร คนไข้ต้องกลับมาฉีดฟิลเลอร์ เป็นระยะ ๆ ประมาณ 4 – 6 เดือน เพื่อคงความสวยก็เป็นอีกเหตุผลที่อาจทำให้เสียทั้งเงิน และเวลาในระยะยาวนั่นเองครับ
เพียงเท่านี้คนไข้ก็คงได้รู้ถึงความแตกต่างระหว่าง การศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกับการฉีดฟิลเลอร์แล้วใช่มั้ยครับ ซึ่งทั้งสองวิธีนั้นให้ผลลัพธ์ความพึงพอใจที่ต่างกัน ดังนั้นหากตัดสินใจจะเสริมดั้งจมูกแล้ว ก็ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด หรือถ้ายังไม่แน่ใจ การปรึกษาแพทย์จากสถานพยาบาลที่คนไข้สนใจไปทำก็เป็นอีกทางเลือกนะครับ เพราะแพทย์จะสามารถให้คำปรึกษา และวางแผนการเสริมจมูกได้ตามรูปทรงที่คนไข้ต้องการอย่างแน่นอนครับ
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดศัลยกรรมเสริมดั้งจมูก จะมีวิสัญญีแพทย์ หรือวิสัญญีพยาบาลค่อยช่วยระงับความรู้สึก หรือความกังวลของคนไข้เพื่อดูแลความปลอดภัยก่อนผ่าตัด รวมถึงคนไข้ควรมีการเตรียมตัวเพื่อให้การผ่าตัดผ่านไปได้อย่างปลอดภัย โดยมีเงื่อนไขง่าย ๆ ในการปฏิบัติดังนี้
ขั้นตอนในการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกผู้หญิงจะมีหลากหลายเทคนิค แล้วแต่แพทย์เป็นผู้พิจารณา และทำการประเมินโครงสร้างของรูปทรงจมูกคนไข้ โดยการเสริมดั้งจมูกมีวิธีการทำด้วยกันดังนี้
การศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกที่กล่าวมานั้น เป็นการผ่าตัดเล็ก หรือที่เรียกว่าการเสริมจมูกแบบปิด จะทำให้หลังผ่าตัดไม่ต้องนอนพักฟื้นที่สถานพยาบาล แต่จะให้นอนพักประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อให้ยาชาหมดฤทธิ์นั่นเองครับ
หลังจากที่คนไข้ได้ผ่านการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกมาแล้วนั้น อาจพบว่ามีอาการข้างเคียง เช่น บริเวณใต้ตามีอาการบวม เขียวช้ำ เลือดออก อึดอัดจมูก และรู้สึกตึง ๆ บริเวณแผลผ่าตัด เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย แพทย์ส่วนใหญ่จึงอาจแนะนำให้ปฏิบัติดังนี้
สำหรับคนไข้ที่ได้ฉีดฟิลเลอร์แท้ในกลุ่ม ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyarulonic acid) สามารถเสริมดั้งจมูกได้ตามปกติครับ เนื่องจากฟิลเลอร์สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ แต่หากรีบร้อนมากแพทย์ก็สามารถทำการขูดฟิลเลอร์ออกแล้วเสริมดั้งจมูกให้ได้ครับ
แต่สำหรับคนไข้ที่ฉีดฟิลเลอร์กลุ่ม Aqua lift หรือฉีดยากลุ่ม Hydrophilic gel ทั้งสองชนิดนี้จะติดเชื้อได้ค่อนข้างง่าย แพทย์อาจต้องทำการขูดหลายรอบ ส่วนซิลิโคนเหลวจะไม่สามารถขูดออกได้ ต้องทำการผ่าตัด เนื่องจากผิวหนังในส่วนที่ฉีดนั้นจะมีความหนาขึ้นครับ
ถึงอย่างไรก็ตามการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเสริมจมูกก็ได้รับความนิยมน้อยลงมา แต่จะเน้นไปในตำแหน่งอื่นมากกว่า เพราะพบว่าอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น ตาบอด หรือผิวหนังขาดเลือด เนื่องจากอนุภาคของฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันในหลอดเลือด ปัจจุบันแพทย์จึงไม่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์เพื่อเสริมจมูก เพราะกลัวผลข้างเคียงที่ร้ายแรง จึงทำให้การผ่าตัดเสริมดั้งจมูก กลายเป็นทางเลือกที่เหมาะสม และปลอดภัยกว่านั่นเองครับ
เสริมดั้งจมูกเจ็บไหม กี่วันเข้าที่ คงเป็นคำถามทั้งก่อน และหลังผ่าตัดศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกที่คนไข้อยากทราบมากที่สุดก็ว่าได้ เพราะมีหลายคนที่กลัวความเจ็บปวด รวมถึงการที่ต้องหยุดงานนาน ๆ เพื่อพักฟื้นร่างกาย โดยผมขออนุญาตให้รายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อให้คนไข้ได้ทำความเข้าใจกันนะครับ
การเสริมดั้งจมูกเจ็บไหม ผมขออธิบายแบบนี้ดีกว่า มีหัตถการเสริมความงามไหนบ้างที่ไม่เจ็บ และอาการเจ็บเนี่ยเจ็บแบบไหน เพราะในระหว่างการเสริมดั้งจมูกนั้นแพทย์จะมีการใช้ยานอนหลับ และยาชา ซึ่งจะทำให้คนไข้ไม่รู้สึกระหว่างผ่าตัดแน่นอนครับ แต่อาการเจ็บอาจมาในช่วงพักฟื้นมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นอาการบวม ช้ำระบม ซึ่งเป็นเรื่องปกติหลังทำการผ่าตัดพอผ่านไปสักระยะอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองครับ
แน่นอนว่าหลังผ่าตัดศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกเสร็จแล้ว คนไข้ต้องมีอาการบวมช้ำ ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน อาการบวมช้ำจึงจะยุบลงจนหายเป็นปกติ ส่วนในด้านของจมูกนั้นจะเริ่มเข้าที่ได้ดีที่สุดในช่วง 3 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของคนไข้ด้วยนะครับ
การเสริมดั้งจมูกทรงผู้หญิงมีมากมายหลายรูปแบบ ตามความต้องการ และความเหมาะสมของใบหน้าของคนไข้ แต่ก่อนจะตัดสินใจเสริมดั้งจมูกต้องปรึกษาแพทย์ และศึกษาข้อมูลเรื่องที่สนใจให้ละเอียดก่อน เพราะถ้าเลือกรูปทรงจมูกไม่เหมาะสม อาจทำให้ต้องแก้ใหม่อีกครั้ง และอาจเกิดอันตรายต่อจมูกของคนไข้ในที่สุดนั่นเองครับ
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า