ศูนย์ศัลยกรรมจมูกแห่งประเทศไทย

สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อน เสริมดั้งจมูก ซิลิโคน

เสริมดั้งจมูก ซิลิโคนกลายเป็นศัลยกรรมความงามที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย เนื่องจากการศัลยกรรมจมูกเป็นตำแหน่งที่คนไข้ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ เพราะเป็นจุดกึ่งกลางบนใบหน้า หลังทำจะเห็นการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าได้อย่างชัดเจน ซึ่งมีสิ่งสำคัญอะไรที่ควรรู้ก่อนเสริมดั้งซิลิโคนบ้างไปติดตามกันได้เลยครับ 



เสริมดั้งจมูกซิลิโคนคืออะไร

เสริมดั้งจมูก ซิลิโคนคืออะไร

การเสริมดั้งซิลิโคน คือ การศัลยกรรมผ่าตัดตกแต่งเพื่อปรับรูปทรงหรือขนาดของจมูก เช่น เพิ่มความโด่ง ความสูงบริเวณสันจมูก โดยใช้วัสดุซิลิโคน หรือกระดูกอ่อน และเนื้อเยื่อของตัวเอง ซึ่งทำโดยแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งเท่านั้นครับ

การแก้ไขปัญหาจมูก ไม่ว่าจะเป็นการเสริมดั้งจมูกใหม่ครั้งแรก หรือแก้ปัญหาจมูกที่เคยเสริมมาแล้ว แพทย์จำเป็นต้องมีความชำนาญเชี่ยวชาญ และมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการออกแบบทรงจมูกให้เข้ากับใบหน้าของคนไข้ พร้อมกับการเลือกใช้เทคนิคให้ดูเหมาะสม ซึ่งปัจจัยหลักคือต้องทำให้คนไข้รู้สึกพึงพอใจ สามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุด เพื่อเสริมดั้งจมูกให้ดูโดดเด่นเข้ากับรูปทรงใบหน้า และแก้ไขจุดด้อยที่คนไข้ขาดความมั่นใจได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำครับ แต่ว่าในแง่ของความนิยมการเสริมดั้งจมูกนั้นถูกจัดให้เป็นการศัลยกรรมที่ติดอันดับท็อป 5 ของโลกในเอเชีย และติดอันดับต้น ๆ ในไทย เนื่องจากโครงสร้างจมูกของคนเอเชียส่วนมาก จะมีปัญหาจมูกแบน จมูกสั้น จมูกบาน ปีกจมูกกว้าง ทำให้คนไข้เกิดความไม่พอใจได้นั่นเองครับ

การเสริมดั้งซิลิโคนจึงช่วยแก้ไขโครงสร้างภายใน แถมเป็นการปรับใบหน้าให้มีมิติได้สัดส่วน อย่างไรก็ตามคนไข้ที่ต้องการทำศัลยกรรมเสริมดั้งซิลิโคน ควรทำการศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงจมูกที่ต้องการ แพทย์ที่เข้ารับการรักษา และสถานพยาบาลที่คนไข้จะเข้าใช้บริการ ล้วนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อความปลอดภัยในการทำศัลยกรรมครับ

การ เสริมดั้งจมูก มีกี่แบบ

การเสริมดั้งจมูกมีกี่แบบ

การเสริมดั้งเป็นอีกหนึ่งศัลยกรรมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันครับ เนื่องจากสามารถเพิ่มความโด่ง และปรับเปลี่ยนสัดส่วนให้เข้ากับรูปทรงใบหน้าได้ดี โดยการเสริมดั้งจมูกนั้นมีอยู่ 2 รูปแบบดังนี้

  • เสริมด้วยการใช้ซิลิโคน

การใช้ซิลิโคนเป็นรูปแบบที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก มากกว่าแบบอื่นเนื่องจากการใช้ซิลิโคนมักสามารถทำให้ได้รูปร่างที่ต้องการได้ดีกว่า เพราะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถเหลาซิลิโคนได้ตามความต้องการของคนไข้ครับ ซึ่งซิลิโคนถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือซิลิโคนแบบแท่ง และซิลิโคนแบบล็อกนั่นเองครับ

  • การใช้เนื้อเยื่อตัวเอง

เนื้อเยื่อที่นำมาใช้ในการศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกนั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญส่วนมากจะแนะนำให้ใช้ เนื้อเยื่อบริเวณ กระดูกซี่โครง ไขมัน กระดูกอ่อนหลังใบหู เนื้อที่ก้นกบ เป็นต้นครับ ซึ่งสามารถนำมาเสริมดั้งจมูกได้เหมือนกันครับ

ใครบ้างที่เหมาะกับการ เสริมดั้งจมูก

ใครบ้างที่เหมาะกับการเสริมดั้งจมูก

จมูกถือเป็นจุดเด่นบนใบหน้าของคนไข้ ที่สามารถดึงดูดสายตายได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่พบเห็นครับ แต่ก็ยังมีคนไข้ที่ขาดความมั่นใจเกี่ยวกับจมูกของตัวเอง เนื่องจากบางรายอาจมีทรงจมูกที่ไม่เข้ากับรูปทรงใบหน้า ฉะนั้นผมจึงจะมาบอกว่า ใครบ้างที่สามารถเสริมดั้งจมูกเพื่อเพิ่มความสวยตามความต้องการได้ดังนี้

  • คนไข้ที่มีปัญหา จมูกแบบ จมูกสั้น จมูกกว้าง จมูกบาน ปีกจมูกใหญ่ จมูกเบี้ยว จมูกเอียง และจมูกไม่สมส่วนกับใบหน้า สามารถทำการศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกเพื่อปรับรูปทรงให้ดูดีช่วยเพิ่มความมั่นใจให้คนไข้ได้ครับ

  • คนไข้ที่มีปัญหาเกิดจากโรคภัย หรืออุบัติเหตุ เช่น เคยผ่านการผ่าตัดเนื้องอกในจมูก มีความพิการตั้งแต่กำเนิด รวมถึงเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ สามารถศัลยกรรมเสริมดั้งจมูก ปรับรูปทรงจมูกให้เข้ากับโครงหน้าได้ครับ

  • คนไข้ที่จะต้องการเข้ารับการรักษาควรมีอายุเฉลี่ยตั้งแต่ 18-20 ปีขึ้นไปครับ เนื่องจากอยู่ในช่วงอายุที่จมูกเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่แล้วครับ

  • คนไข้ที่ต้องการปรับโหงวเฮ้งจมูกถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัย และคนส่วนใหญ่ให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อ เนื่องจากคนไข้ที่ต้องการศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกนั้นนอกจากอยากให้จมูกดูสวยเข้ากับใบหน้าแล้ว ยังต้องการเสริมโชคลาภทั้งเรื่อง ดวงการเงิน อำนาจวาสนา และคู่ครองครับ

ถึงอย่างไรการเสริมดั้งจมูก ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ในแต่ละเคสนะครับ ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ทำการประเมินรวมถึงฟังคำแนะนำที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์หลังทำที่ดูสวยเป็นธรรมชาติ และไม่มีปัญหาจมูกเบี้ยวตามมาภายหลังนั่นเองครับ

ศัลยกรรม เสริมดั้งจมูก มีกี่เทคนิค

ศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกมีกี่เทคนิค

สำหรับการศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกนั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 3 เทคนิคที่นิยม ทำการผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งในแต่ละเคสเหมาะกับการเสริมดั้งจมูกด้วยเทคนิคไหนนั้น แพทย์จะทำการประเมินจากปัญหาของคนไข้เป็นหลัก ซึ่งมีเทคนิคในการทำดังนี้

  • การเสริมจมูกแบบปิด (Closed Techique)

การเสริมจมูกแบบปิดนั้นแพทย์จะทำการเปิดแผลที่รูจมูก 1 ข้าง และเสริมซิลิโคนจมูกเข้าไปตามแนวฐานกระดูกของจมูกเดิม ดังนั้นแผลจะอยู่ด้านในจมูกเพียงข้างใดข้างหนึ่งเท่านั้นครับ ซึ่งเทคนิคนี้จะเหมาะกับคนไข้ที่มีฐานจมูกอยู่แล้ว และไม่มีปัญหาเรื่องโครงสร้างจมูก แพทย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำให้ทำการเสริมจมูกแบบปิดนั่นเองครับ

  • การเสริมจมูกแบบ Semi-open

การเสริมจมูกแบบ semi-open นั้นแพทย์จะทำการเปิดแผลที่รูจมูกทั้ง 2 ข้างจากนั้นจะเสริมซิลิโคนเข้าไปตามแนวฐานกระดูกของจมูก เช่นเดียวกับเทคนิคการเสริมจมูกแบบปิด แตกต่างกันตรงการเปิดแผลในรู จมูกทั้งสองข้างจะช่วยลดแรงตึงในจมูกได้ดีกว่า ทำให้แพทย์สามารถสร้างโพรงสำหรับการวางซิลิโคนได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นครับ ทำให้ช่วยลดโอกาสการเบี้ยวเอียงของซิลิโคนได้ รวมถึงลดอาการเจ็บของเนื้อเยื่อ ซึ่งการเสริมจมูกแบบ semi-open สามารถทำร่วมกับเทคนิคตกแต่งปลายจมูกได้ โดยใช้เนื้อเยื่อก้นกบ กระดูกอ่อนหลังหู และเนื้อเยื่อเทียมครับ

  • การเสริมจมูกแบบเปิด ( Open Rhinoplasty)

การเสริมจมูกแบบเปิดนั้นแพทย์จะทำการผ่าตัดเปิดแผลที่ฐานจมูกของคนไข้ เพื่อตกแต่งกระดูกของฐานจมูกให้ดูเล็กลงหรือแก้ไขจัดกระดูกอ่อนในโพรงจมูก เช่น สันจมูก ฮัมพ์ เป็นต้น อีกทั้งยังสามารถผ่าตัดปีกจมูก ให้สวยงามดูเรียวเล็กลงได้ด้วย เนื่องจากแพทย์ทำการเปิดแผลที่ฐานจมูกจะส่งผลให้สามารถแยกเนื้อจมูก ช่วยทำให้แพทย์ได้เห็นโครงสร้างภายในได้ทั้งหมด และชัดเจน การเสริมจมูกแบบเปิดจึงเหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกที่ซับซ้อน อย่างเช่นจมูกผิดรูปตั้งแต่กำเนิด หรือเิกดจากอุบัติเหตุนั่นเองครับ

การเสริมจมูกทั้ง 3 เทคนิคนั้นจึงได้รับความนิยมในการแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการประเมินโครงสร้างจมูกของแพทย์ ว่าคนไข้แต่ละเคสเหมาะสำหรับการศัลยกรรมด้วยเทคนิคไหนกันแน่ครับ ถึงอย่างไรก็ตามเทคนิคทั้ง 3 แบบที่ผมได้กล่าวถึงนั้นเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นที่ให้คนไข้สามารถอ่านเพื่อทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้นนั่นเองครับ

ซิลิโคนที่นำมา เสริมดั้งจมูก มีกี่ชนิด

ซิลิโคนที่นำมาเสริมดั้งจมูกมีกี่ชนิด

ซิลิโคนที่นำมาเสริมดั้งจมูกในปัจจุบันนั้นมีอยู่ 3 ชนิดที่กำลังได้รับความนิยม ซึ่งเป็นซิลิโคนที่แพทย์ส่วนใหญ่ให้การแนะนำว่าเหมาะสำหรับแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับจมูกได้ดังนี้

  • ซิลิโคนอเมริกา(USA Silicone)

ซิลิโคนอเมริกานั้นจะเป็นแท่งได้มาตรฐานพิเศษ เนื้อของซิลิโคนมีลักษณะเนียนละเอียด มีความนิ่มปานกลาง และเป็นซิลิโคนจมูกสีขาว มีคุณภาพดี มีความปลอดภัยสูง และมีความบริสุทธิ์ถึง 100% (Medical Grade Silicone) เหมาะกับคนไข้ที่มีเนื้อบริเวณสันจมูก นิยมนำมาเหลาขึ้นรูปให้เข้ากับทรงจมูกของคนไข้แต่ละคนครับ

  • ซิลิโคนเกาหลี(Korea Silicone)

ซิลิโคนเกาหลีจะเป็นแท่งได้มาตรฐานพิเศษ ซิลิโคนมีลักษณะโคนจมูกรวมถึงปลายจมูกมีความนิ่ม และยืดหยุ่นได้สูง ซิลิโคนจะมีสีน้ำตาลหรือสีเหลือง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเสริมจมูกให้ดูเป็นธรรมชาติ เนื่องจากจมูกซิลิโคนทรงเกาหลีจะไม่โด่งมากจนเกินไปนั่นเองครับ

  • ซิลิโคนญี่ปุ่น(Japan Silicone)

ซิลิโคนญี่ปุ่นจะเป็นแท่งมาตรฐานธรรมดา ซิลิโคนจะมีลักษณะค่อนข้างแข็ง และไม่ยืดหยุ่น ซิลิโคนจะเป็นสีเหลืองอ่อน ซึ่งวัสดุบางอย่างจำนำเข้ามาจากญี่ปุ่น แต่ทำการผลิตในไทยเมื่อเสริมไปแล้วจงไม่สามารถบิดได้ ทำให้ได้รับความนิยมน้อยที่สุดครับ

นอกจากนี้ยังมีซิลิโคนบราซิล ,ซิลิโคนจีน ,ซิลิโคนไต้หวัน รวมถึงซิลิโคนไทย แต่จะได้รับความนิยมน้อยกว่าชนิดอื่นครับ

ศัลยกรรม เสริมดั้งจมูก ทำอย่างไรได้บ้าง

ศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกทำอย่างไรได้บ้าง

การศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกสามารถทำได้หลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับการประเมินโครงสร้างของแพทย์ที่ทำการรักษา เนื่องจากคนไข้แต่ละเคสนั้นมีลักษณะรูปทรงจมูกที่แตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องใช้วิธีการรักษาที่ไม่เหมือนกัน โดยมีมีธีศัลยกรรมอย่างไรบ้างไปดูกันครับ

  • การเสริมดั้งจมูก

การเสริมดั้งจมูกเป็นวิธีศัลยกรรมเพื่อเพิ่มความโด่งหรือความสูงของสันจมูก โดยใช้การวัสดุเสริมใส่เข้าไปในจมูก สามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ ซิลิโคน กระดูกอ่อน และเนื้อเยื่อของตัวเอง ซึ่งแต่ละประเภทให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปครับ

  • การรองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม และเนื้อเยื่อตัวเอง

การรองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียมหรือเนื้อเยื่อตัวเองนั้น จะเหมาะสำหรับคนไข้ที่มีผิวหนังบางหรือมีเนื้อจมูกน้อย เพราะจะทำให้ซิลิโคนไม่สัมผัสกับเนื้อบริเวณปลายจมูกโดยตรง ส่งผลให้ปลายจมูกดูเป็นทรงธรรมชาติ และสามารถป้องกันซิลิโคนทะลุได้ระดับหนึ่งครับ ซึ่งการใช้เนื้อเยื่อเทียมกับเนื้อเยื่อตัวเองมีความแตกกันอยู่ดังนี้

  • เนื้อเยื่อตัวเอง

โดยแพทย์ส่วนใหญ่มักจะนิยมใช้ส่วนกระดูกอ่อนหลังใบหู ทำให้สามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต และมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นเนื้อเยื่อในร่างกาย จึงทำให้ลดโอกาสแพ้ได้น้อย อีกทั้งยังสามารถเติมซ้ำได้หลายครั้งหากคนไข้ต้องการเพิ่มความโด่งของจมูกครับ

  • เนื้อเยื่อเทียม

เนื้อเยื่อเทียมจะเป็นวัสดุที่สังเคราะห์ขึ้นมาจากคอลลาเจน จะมีลักษณะเป็นแผ่นนิ่ม ๆ ที่มีโครงสร้างทางชีวะเคมี และโครงสร้างเนื้อเยื่อผิวหนังจึงสามารถใช้แทนกันได้ครับ ถึงอย่างไรเนื้อเยื่อเทียมก็ไม่สามารถอยู่ได้ตลอด เมื่อเวลาผ่านไปอาจมีการสลายไปได้เองบางส่วนครับ จึงได้รับความนิยมน้อยกว่านั่นเองครับ

  • การตัดหรือเย็บปีกจมูก

การตัดหรือเย็บปีกจมูกนั้นถือเป็นวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาสำหรับคนไข้ที่มีปีกจมูกบานหรือหนา หากมีมากเกินไป ก็สามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อผ่าตัดลดขนาดของปีกจมูกได้ครับ โดยการเย็บหรือการตัดมีความแตกต่างอยู่เล็กน้อยดังนี้

  • การเย็บปีกจมูก

เป็นการผ่าตัดด้านในทำให้ไม่มีแผลเป็น โดยจะทำให้ปีกจมูกทั้ง 2 ข้างเท่ากัน ซึ่งวิธีนี้จะไม่เหมาะ กับคนไข้ที่มีปีกจมูกขนาดใหญ่ครับ

  • การตัดปีกจมูก

การตัดปีกจมูกนั้นจะเหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาปีกจมูกกว้างหรือหนา โดยแพทย์จะตัดออกไปส่วน นึงเพื่อให้ปีกจมูกมีขนาดบาง และแคบลงแต่วิธีนี้อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นบริเวณข้างปีกจมูกนะครับ

  • การตกแต่งกระดูกฐานจมูก

การตกแต่งกระดูกฐานจมูกจะเหมาะกับคนไข้ที่มีสันจมูกกว้าง ต่อให้จะมีจมูกโด่ง แต่เพราะฐานจมูกกว้างเกินไปจึงทำให้ดูไม่โด่งครับ ถึงอย่างไรปัญหานี้ก็ควรแก้ไขโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นนะครับ เพราะต้องระมัดระวังเรื่องความกว้างของทางเดินหายใจครับ

  • การตะไบฮัมพ์

ฮัมพ์(Hump) คือกระดูกที่นูนบริเวณสันจมูก สามารถพบเห็นได้ตามปกติไม่ใช้เรื่องแปลกใหม่ครับ ซึ่งมีคนไข้ที่สนใจในการตะไบฮัมพ์ เพราะมีกรณีที่มีฮัมพ์มากจนเกินไปจนส่งผลทำให้จมูกงุ้มลงคล้ายจมูกแม่มด คนไข้จึงต้องการศัลยกรรมเพื่อให้จมูกมีรูปทรงเข้ากับโครงหน้าของคนไข้นั่นเองครับ

การเตรียมตัวก่อน เสริมดั้งจมูก

การเตรียมตัวก่อน เสริมดั้งจมูก

การเตรียมตัวก่อนเสริมดั้งจมูกการเตรียมตัวก่อนเสริมดั้งจมูก ถือเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่คนไข้ควรให้ความใส่ใจครับ เพราะจะทำให้ในขั้นตอนถัดไปสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยในขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมนั้นจะมีแพทย์แนะนำถึงวิธีการปฏิบัติดังนี้

  • คนไข้ควรแจ้งรายละเอียดข้อมูลสุขภาพของตัวเองอย่างชัดเจน เช่น มีโรคประจำตัวไหม ยาที่ใช้รับประทานเป็นประจำ มีอาการแพ้ยาหรือแพ้อาหารหรือเปล่า เป็นต้นครับ

  • คนไข้ควรงดการใช้ยาสมุนไพร ยาบำรุง ยาแก้ปวด หรือแอสไพริน รวมถึงวิตามินทุกชนิดก่อนศัลยกรรมเสริมดั้งจมูก อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันอาการข้างเคียงระหว่างเสริมดั้งจมูกครับ

  • แนะนำให้งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการศัลยกรรมเสริมดั้งจมูก เนื่องจากสามารถป้องกันภาวะเนื้อเยื่อขาดเลือดมาหล่อเลี้ยงครับ

  • ควรงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 24 ชมหรือ 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัดศัลยกรรมเสริมดั้งจมูก เพื่อป้องกันภาวะเลือดไหลไม่หยุดขณะผ่าตัดครับ

  • งดรับประทานอาหารประเภทของหมักดอง อาหารทะเล และของกึ่งดิบกึ่งสุกทุกชนิดครับ เพราะจะส่งผลต่อการอักเสบของแผลได้ครับ

  • งดแต่งหน้า และงดใส่เครื่องประดับทุกชนิด เช่น ต่างหู สร้อยคอ รวมถึงแหวนบนร่างกาย และควรสระผมให้เรียบร้อยก่อนผ่าตัดศัลยกรรมเสริมดั้งจมูก เพื่อความสะอาด และสะดวกรวดเร็วในขั้นตอนการผ่าตัดครับ

  • ควรงดน้ำ และอาหารก่อนผ่าตัดตามแพทย์สั่ง เนื่องจากคนไข้อาจสำลักได้ขณะผ่าตัดศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกครับ

ขั้นตอนในการเสริมดั้งจมูกทำอย่างไร

ขั้นตอนในการ เสริมดั้งจมูก ทำอย่างไร

ขั้นตอนการเสริมดั้งจมูกมีวิธีการที่ค่อนข้างเข้าใจง่าย ใช้เพียงแค่ความพร้อมทางร่างกาย และจิตใจเท่านั้น โดยมีขั้นตอนที่สำคัญดังนี้

  • แพทย์จะทำการวางยานอนหลับหรือยาชา ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนในการผ่าตัด ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้คนไข้เองครับ อย่างกรณีการผ่าตัดแบบเปิด อาจต้องวางยานอนหลับโดยวิสัญญีแพทย์ ส่วนการผ่าตัดแบบปิดจะใช้การฉีดยาชาเฉพาะจุดครับ

  • ส่วนในกระบวนการผ่าตัดเสริมดั้งจมูก แพทย์จะใช้เทคนิคที่แตกต่างกันเพื่อแก้ไขตามปัญหาของแต่ละเคส ตั้งแต่การเหลาซิลิโคน การเปิดแผล จนกระทั่งการตกแต่ง และปรับโครงสร้าง ซึ่งส่วนมากจะใช้เวลาในการผ่าตัดราว ๆ 2-3 ชั่วโมง

  • แพทย์จะทำการเย็บปิดแผลผ่าตัด ซึ่งส่วนมากจะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 5-7 วันครับ

ทั้งหมดที่ผมได้กล่าวมาถือว่าเป็นขั้นตอนพื้นฐานในการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกนะครับ ซึ่งสถานพยาบาลแต่ละที่ก็จะมีเทคนิคของแพทย์ที่แตกต่างกันออกไปครับ

การดูแลรักษาหลังเสริมดั้งจมูกมีอะไรบ้าง

การดูแลรักษาหลังเสริมดั้งจมูกมีอะไรบ้าง

หลังจากคนไข้ผ่านขั้นตอนการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกมาแล้ว ต่อมาก็จะเข้าสู่วิธีการดูแลรักษา ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะสามารถทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนานขึ้น และทำให้คนไข้เกิดความพึงพอใจเมื่อหายเป็นปกติครับ โดยแพทย์ให้คำแนะนำในการรักษาไว้ดังนี้

  • หลังจากผ่าตัดศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกแล้ว ภายใน 72 ชม คนไข้ควรประคบเย็นโดยผ้าสะอาดห่อน้ำแข็งหรือใช้ผ้าเย็น ประคบบริเวณรอบ ๆ ที่ทำการผ่าตัดมา แต่ควรเว้นบริเวณที่ทำการผ่าตัดมานะครับ เพื่อช่วยให้เลือดหยุดไหล และลดอาการบวมลงได้นั่นเองครับ

  • หลังจากผ่านไป 72 ชม แผลจะเริ่มสมานกันแพทย์จะแนะนำให้คนไข้เปลี่ยนจากการประคบเย็น มาเป็นการประคบอุ่นแทนนะครับ เพราะสามารถช่วยลดรอยเขียวช้ำบริเวณรอบ ๆ แผลผ่าตัดได้ครับ

  • พยายามหลีกเลี่ยงการแคะ แกะ เกา หรือการขยี้จมูกบริเวณแผลผ่าตัด เพราะอาจส่งผลให้แผลเกิดการอักเสบได้ง่ายครับ

  • หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ แต่ควรนอนโดยใช้หมอนรองคอให้ศีรษะสูง เพื่อลดภาวะเลือดคั่งในโพงจมูกครับ

  • หลีกเลี่ยงการนอนหรืออยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองหนา ควรจัดทำห้องให้สะอาดปลอดโปร่ง เพื่อป้องการอาการไอหรือจามครับ

  • งดการล้างหน้าหรือไม่ให้แผลบริเวณที่ผ่าตัดมาโดนน้ำอย่างน้อย 3 วัน เพื่อป้องกันแผลอับชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการติดเชื้อ หากผ่านไป 3 วันไม่มีอาการใด ๆ สามารถล้างหน้าได้ตามปกติครับ

  • งดการรับประทานอาหารประเภทหมักดอง และรสจัด เพราะสามารถส่งผลต่อการอักเสบของแผลได้ ซึ่งจะทำให้แผลของคนไข้หายได้ช้ากว่าเดิมครับ

  • หากมีอาการคันบริเวณจมูก แพทย์จะแนะนำให้ใช้คอตตอนบัดหรือสำลีชุบน้ำเกลือ เช็ดบริเวณที่คันอย่างเบามือนะครับ

  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย ยกของหนัก เล่นกีฬา รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากจมูกอาจยังไม่เข้าที่ อาจทำให้จมุกเกิดผิดรูปได้ครับ

  • หากคนไข้รู้สึกว่าตัวเองมีอาการผิดปกติอย่างอื่นเช่น แผลสมานช้า อาการบวมไม่ลดลง ผมแนะนำให้รีบไปพบแพทย์ทันทีครับ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นนั่นเองครับ

เสริมดั้งจมูก อันตรายไหม

เสริมดั้งจมูก อันตรายไหม

คนไข้ที่มีความสนใจอยากจะเสริมดั้งจมูก รู้หรือไม่ว่ายังมีปัจจัยที่สำคัญอยู่หลายอย่างที่ควรรู้นะครับ เริ่มจากการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองจะทำให้ทราบอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำ ถึงอย่างไรก็อาจมีข้อมูลจากหลาย ๆ ที่จะพูดเพียงแต่ข้อดีในการผ่าตัดเสริมดั้งจมูก ไม่ค่อยพูดถึงข้อเสียสักเท่าไหร่ ดังนั้นผมจะขอพูดถึงเกี่ยวกับการเสริมดั้งจมูกว่ามีอันตรายไหม และอันตรายจากอะไรได้ดังนี้ครับ

  • อันตรายจากแพทย์

เลือกแพทย์ผิด ชีวิตก็ขิตได้เหมือนกัน คำพูดนี้ไม่เกินจริงครับ ผมขอบอกตามตรงเลยนะครับว่าแพทย์ที่ทำการผ่าตัดให้คนไข้เนี่ย ต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเท่านั้น โดยคนไข้สามารถศึกษาข้อมูลของแพทย์ได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัด หากเผลอไปทำกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ อาจทำให้จมูกของคนไข้เกิดปัญหาได้ในอนาคตครับ การเลือกแพทย์จึงถือว่าเป็นปัจจัยที่เสี่ยงอันตรายอันดับแรก ๆ เลยก็ว่าได้ครับ

  • อันตรายจากสถานพยาบาล

ผมเชื่อว่ามีคนไข้หลายท่าน ที่มองข้ามเกี่ยวกับสถานพายาบาลไป คิดว่าไม่ได้สำคัญอะไร แต่รู้หรือไม่ สถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่สะอาด ไม่มีความปลอดภัย เครื่องมือทางการแพทย์ไม่มีความพร้อม ไม่เคยผ่านการฆ่าเชื้อ สามารถทำให้จมูกของคนไข้ติดเชื้อได้หลังจากทำไปนะครับ สถานพยาบาลจึงเป็นอีกหนึ่งความอันตรายที่คนไข้ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนเข้ารับการศึกษานะครับ

  • อันตรายจากซิลิโคน

เรื่องนี้สามารถเป็นไปได้ หากคนไข้เข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน แพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญ บางกรณีอาจเจอแบบ ซิลิโคนเป็นของแท้ได้มาตรฐานปลอดภัยแน่นอน แต่พอเข้าสู่การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมดั้งจมุก กับนำเอาซิลิโคนเกรดถูก ต่ำกว่ามาตรฐาน มาใส่ให้ พอรู้ตัวอีกที่ก็เกิดปัญหาตามมามากมาย อาทิเช่น จมูกบวมแดง จมูกผิดรูป รวมถึงซิลิโคนทะลุจมูกครับ

ดังนั้นอย่าเห็นแต่ของดีที่ราคาถูกเพราะอาจส่งผลเสียได้ในวันข้างหน้า ทำให้คนไข้แก้จมูกไม่รู้จบ เสริมแล้วไม่สวยตามความต้องการ หากไม่อยากพลาดการศึกษาข้อมูลจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อลดความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นครับ

ภาวะแทรกซ้อนหลังศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกมีอะไรบ้าง

ภาวะแทรกซ้อนหลังศัลยกรรม เสริมดั้งจมูก มีอะไรบ้าง

แน่นอนว่าทุกการผ่าตัดต้องมีปัจจัยเสี่ยงเป็นของแถมครับ แต่ในการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมดั้งจมูกถือว่าเป็นความรุนแรงลำดับต้น ๆ หากเกิดภาวะแทรกซ้อน โดยมีภาวะแทรกซ้อนหลังเสริมดั้งจมูกดังนี้

  • ภาวะจมูกเบี้ยว

ภาวะจมูกเบี้ยวอาจเกิดขึ้นได้หากแพทย์ใช้แท่งซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่เกินไป หรืออาจเกิดจากความบกพร่องของขั้นตอนการติดเทปในช่วงสัปดาห์แรก จึงทำให้ซิลิโคนลอย และมีโอกาสบิดซ้ายหรือขวาได้สูงขึ้น ทำให้เกิดอาการบวม ซึ่งวิธีแก้ไขคือการผ่าตัดใหม่แท่านั้น โดยแพทย์จะเอาแท่งซิลิโคนเก่าออก แล้วให้คนไข้พักจมูกสัก 2-3 เดือน เพื่อทำการเสริมซิลิโคนแท่งใหม่เข้าไปครับ

  • ภาวะซิลิโคนทะลุ

ภาวะซิลิโคนทะลุนั้นสามารถเกิดได้จากหากเสริมแท่งซิลิโคนขนาดใหญ่มากเกินไปหรือซิลิโคนไม่มั่นคง ส่งผลทำให้ซิลิโคนเลื่อนไปมา และเกิดทะลุได้ครับ ซึ่งวิธีการรักษาคือผ่าตัดใหม่เท่านั้น โดยให้คนไข้พัก 2-3 เดือน หลังจากนั้นแพทย์จะทำการผ่าตัดซิลิโคนให้คนไข้ใหม่ครับ อาจใช้เนื้อเยื่อของกระดูกอ่อนหลังใบหู นำมารองปลายจมูก เพื่อช่วยในการป้องกันการทะลุของซิลิโคนได้ครับ

ฉะนั้นการเสริมดั้งจมูกให้ปลอดภัย คนไข้จึงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ และไม่ควรเสริมขนาดใหญ่มากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวได้ครับ เพื่อลดความเสี่ยงควรเลือกขนาดของซิลิโคนให้เหมาะสมกับใบหน้า และจมูกเดิมของคนไข้ ที่สำคัญคือควรปฏิบัติตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และสม่ำเสมอครับ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save