ดั้งแหมบ ไม่มีดั้งแต่ว่าหน้าดีก็เหมือนถูกฟ้ากลั่นแกล้ง เพราะจมูกถือว่าเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมใบหน้าให้ดูสวยโดดเด่น หนุ่มสาวที่ไม่มีดั้งจึงเริ่มหันมาสนใจหัตถการเสริมจมูกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับรูปทรงจมูกให้เข้ากับโครงสร้างใบหน้าแบบถาวร
ดั้งแหมบ คืออะไร
ดั้ง คืออวัยวะส่วนหนึ่งที่อยู่บริเวณสันจมูก อาจมีลักษณะเรียบ นูน หรือแบนราบขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ซึ่งการมีดั้งโด่งมากเกินไป หรือดั้งแบนราบไปเลยนั้น ก็สามารถสร้างความกวนใจให้ใครหลายคนได้ไม่น้อย การศัลยกรรมจมูก จึงได้รับความนิยมในหมู่หนุ่มสาว เพราะสามารถแก้ไขรูปทรงจมูกให้เหมาะกับโครงหน้าได้นั่นเองครับ
ส่วนคนไข้ที่มองว่าตัวเองมีรูปทรงจมูกไม่เข้ากับใบหน้า หรือมีดั้งแหมบมาก ๆ การเสริมจมูกถือเป็นตัวเลือกแรกที่ตอบโจทย์ โดยคนไข้ต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เนื่องจากแพทย์นั้นสามารถให้คำปรึกษาได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน อีกทั้งยังแนะนำรูปทรง หรือเทคนิคในการเสริมจมูกได้อย่างเหมาะสมแน่นอนครับ
สำหรับคนไข้ที่ยังไม่แน่ใจ เกี่ยวกับปัญหาจมูกของตัวเองนั้นควรแก้ไขอย่างไร ในหัวข้อถัดไปผมจะขอพูด เพื่อปรับความใจถึงปัจจัย หรือสาเหตุต่าง ๆ ที่อาจส่งผลทำให้ดั้งแหมบ ถ้าพร้อมแล้วก็..เตรียมตัว..ระวัง..ไป !!
ดั้งแหมบ เกิดจากสาเหตุอะไร
ปัญหารูปทรงจมูกไม่ว่าจะมีลักษณะ จมูกสั้น จมูกโต ไม่มีสันจมูก ปีกจมูกไม่เท่ากัน ดั้งจมูกแหมบ ฯลฯ ล้วนส่งผลกระทบได้ทั้งสิ้น แต่จะมีสักกี่คนที่รู้จริง ๆ ว่าปัญหาดังกล่าวนั้นเกิดมาจากปัจจัยใด ในบทความนี้จะผมจะขออธิบายถึงสาเหตุต่าง ๆ ที่ส่งผลทำให้ดั้งแหมบดังนี
การเจริญเติบโต
การเจริญเติบโตถือว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุ ที่สามารถส่งผลทำให้จมูกเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ บางกรณีตอนเด็กอาจดูดั้งโด่ง แต่พอโตขึ้นดั้งกลับหายไปเอง เพราะบางทีกระดูกจะถูกพัฒนาขึ้นตามวัย แต่ถ้าหากใครที่ฮอร์โมนเกิดความผิดปกติ ก็สามารถส่งผลทำให้กระดูกบริเวณจมูกหยุดการเติบโตได้เช่นกัน จึงเป็นที่มาของสาเหตุที่ทำให้จมูกไม่มีดั้งนั่นเองครับ
เกิดจากพันธุกรรม
ร้อยทั้งร้อยปัญหาแทบทุกสัดส่วนบนร่างกายล้วนมี พันธุกรรมจากพ่อแม่เป็นอิทธิพลซะส่วนใหญ่ หากพ่อ – แม่ไม่มีดั้งจมูก ก็สามารถส่งต่อยีน หรือโครโมโซมด้อยมาสู่ลูกได้เหมือนกัน จึงเป็นสาเหตุลำดับต้น ๆ ที่ทำให้มีปัญหาจมูกไม่มีดั้ง แต่ในกรณีนี้ยังสามารถแก้ไขได้ด้วยการศัลยกรรมเสริมจมูก เพื่อปรับรูปทรงให้เข้ากับใบหน้าได้ครับ
เกิดจากอุบัติเหตุ
การเกิดอุบัติเหตุก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่อาจทำให้หนุ่มสาว ต้องสูญเสียอวัยวะไป ไม่ว่าจะเป็น แขน, ขา, ตา, จมูก จากอุบัติเหตุต่าง ๆ เช่น รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ การทะเลาะวิวาท หรือเกิดจากการเล่นกิจกรรมตอนเด็ก ซึ่งสาเหตุดังกล่าวยังสามารถแก้ไขได้ด้วยการเสริมจมูก เพื่อปรับโครงสร้างรูปทรงให้เข้ากับใบหน้าได้ครับ
เกิดจากพฤติกรรม
พฤติกรรม หรือความเชื่อของพ่อ – แม่ สามารถส่งผลต่อความคิดการกระทำของลูกได้ เพื่อหวังผลให้ดั้งดูโด่งขึ้นตั้งแต่ยังเล็ก บางครอบครัวมีการสอนให้ลูกดึงดั้งเมื่อจำความได้ แต่ในความจริงแล้วนอกจากจะไม่สามารถช่วยให้ดั้งโด่งขึ้น ยังส่งผลต่อทางเดินหายใจได้อีกต่างหาก เพราะการนำมือไปบีบถือว่าเป็นการอุดกั้นระบบทางเดินหายใจ หากทำอย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิดอันตรายได้ในอนาคตครับ
เกิดจากโรค
โรคภัยไข้เจ็บเป็นสิ่งที่ไม่สามารถห้าม หรือหยุดไม่ให้เกิดได้ แต่สามารถชะลอได้ ถึงอย่างไรก็ตามมีคนบางประเภทที่มีโรคติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด อาทิ โรคสังข์ทอง ที่ส่งผลโดยตรงกับจมูก อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้จมูกไม่มีดั้งก็ได้ครับ
ใครบ้างที่เหมาะกับการเสริมดั้งแหมบ
สำหรับหนุ่มสาวที่มีปัญหาเกี่ยวกับรูปทรงจมูก แนะนำว่าให้ลองศึกษารายละเอียดการเสริมจมูกให้แน่ใจก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมนะครับ เพราะทุกการผ่าตัดย่อมมีความเสี่ยงเป็นของคู่กัน ซึ่งคนไข้ที่สามารถเสริมดั้งจมูกที่แหมบได้นั้นจะมีดั้งนี้
- คนไข้ที่มีฮัมพ์จมูกกว้างอาจส่งผลทำให้จมูกดูแหมบ จะสามารถเสริมจมูกโดยการตะไบฮัมพ์ เพื่อวางตำแหน่งซิลิโคนให้เหมาะ จะช่วยทำให้จมูกดูมีสันคมชัดแบบธรรมชาติได้ครับ
- คนไข้ที่บริเวณสันจมูกไม่มีดั้ง สามารถเสริมจมูกเป็นทรงสโลปปลายพุ่งได้ จะช่วยทำให้จมูกดูโด่งมากขึ้น
- คนไข้ที่มีปลายจมูกกลมอาจทำให้ดูเหมือนไม่มีดั้ง อาจมีการเสริมจมูกโดยใช้เทคนิคเนื้อเยื่อเทียม หรือเนื้อเยื่อกระดูดอ่อนหลังใบหู พร้อมกับเหลาซิลิโคนให้เหมาะกับรูปทรงใบหน้า จะช่วยทำให้จมูกมีปลายพุ่งดูโดดเด่น
- คนไข้ที่มีปลายจมูกตัด จะส่งผลทำให้เห็นรูจมูกชัดมากกว่าเห็นสันดั้ง สามารถเสริมจมูกเพื่อแก้ปัญหาได้ครับ โดยอาจเสริมเป็นรูปทรงหยดน้ำ จะช่วยทำให้จมูกดูละมุน และทำให้เห็นสันจมูกได้ชัดกว่ารูจมูกครับ
- คนไข้ที่เคยเกิดอุบัติเหตุบนใบหน้าบริเวณจมูก จนทำให้เสียรูปทรงเดิมสามารถเสริมจมูกเพื่อให้เหมาะกับใบหน้าได้ครับ
- คนไข้ที่จมูกไม่มีดั้งจากพันธุกรรม สามารถเสริมจมูกเพื่อปรับรูปทรง หรือเสริมดั้งให้เหมาะสมกับใบหน้าแต่ละบุคคลได้ครับ
ดั้งแหมบ แปลว่าไม่สวย?
การที่คนเราไม่มีดั้งจมูกมาตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ทำไมต้องคิดว่าไม่สวยด้วย ? จริง ๆ ปัญหาเหล่านี้ถูกตั้งคำถามตามค่านิยมของสังคมในปัจจุบันหรือเปล่า ว่าการที่ผู้หญิงหน้าสวยต้องมี ดั้งโด่ง เรียว แค่นั้นหรอ จึงทำให้สาว ๆ ที่ไม่มีดั้งต่างพากันขาดความมั่นใจกันไปหมด
ซึ่งการไม่มีดั้งจมูกไม่ได้แปลว่าไม่สวยนะครับ เพราะไม่สามารถจำแนก หรือแยกเฉพาะส่วนได้ แต่ต้องอยู่ที่องค์ประกอบโดยรวม เช่น ตา หู จมูก ปาก รวมไปถึงโครงหน้าด้วย หากทั้งหมดสอดคล้องกันเพียงเท่านี้ก็เรียกว่าสวยได้แล้วครับ เนื่องจากจมูกเป็นอวัยวะที่อยู่ตรงจุดศูนย์กลางของบนใบหน้า จึงอาจทำให้หลายคนสังเกตเป็นอันดับแรก เพราะบางกรณีคนที่ไม่มีดั้งอาจส่งผลทำให้ดูไม่มีสัดส่วน หรือไม่เข้ากับโครงสร้างใบหน้านั่นเอง
ดั้งสวย vs ดั้งแหมบ ดูยังไง
สำหรับวิธีการสังเกตว่าดั้งสวย หรือดั้งแหมบดูยังไง แตกต่างกันแบบไหน ในส่วนของบทความนี้ผมจะมาพูดถึงโครงสร้างของใบหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้มากกว่าเพียงแค่รูปทรงจมูก ซึ่งจะแบ่งออกมาเป็น 3 สัดส่วนที่ทำให้หน้าออกมาสมบูรณ์แบบดังนี้
- ตั้งแต่บริเวณไรผมลงมาถึงคิ้วทั้งสองด้าน
- ตั้งแต่คิ้วทั้งสองข้างลงมาถึงบริเวณใต้จมูก
- ตั้งแต่ใต้จมูกลงมาถึงคาง
โดยทั้งสามสัดส่วนจะถูกแบ่งเป็น ⅓ ตั้งแต่หน้าผากไปจนถึงปลายคาง และต้องมีมุม หรือองศาที่เหมาะกับใบหน้า จึงจะส่งเสริมให้ดั้งดูสวยแบบธรรมชาติ อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงองศา และมุมต่าง ๆ เพื่อดูว่าจมูกเข้ากับใบหน้าหรือไม่
ส่วนคนที่คิดว่าไม่มีดั้งก็ไม่ต้องน้อยใจไปนะครับ เพราะในความเป็นจริงแล้วเกือบทุกคนนั้นจะมีดั้งอยู่นะครับ เพียงเพราะมุม หรือองศานี่แหละที่ทำให้ดูไม่มี ฉะนั้นการที่จะสังเกตดูว่าดั้งสวย หรือดั้งแหมบต้องอาศัยปัจจัยของมุม และองศา รวมไปถึงโครงสร้างใบหน้าร่วมด้วยนั่นเองครับ
เนื้อจมูกมีผลต่อการเสริมดั้งแหมบไหม
หนุ่มสาวหลายคน ยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับกับศัลยกรรมจมูกนะครับ ว่าสามารถเลือกเสริมรูปทรงได้ตามใจชอบ แต่ความเป็นจริงนั้นการเสริมจมูกจะต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่ทำการรักษา เนื้อบริเวณสันจมูก และวัสดุที่นำมาใช้นั่นเอง
เนื่องจากซิลิโคนบางชนิดอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อย ส่วนหนุ่มสาวที่มีเนื้อจมูกเยอะก็ควรเข้ารับคำปรึกษา เพื่อให้แพทย์ทำการประเมินโครงหน้าความเหมาะสมก่อนตัดสินใจเสริมจมูก ซึ่งเนื้อจมูกทั้งสองประเภทมีผลต่อการเสริมจมูกดั้งแหมบดังนี้
เนื้อจมูกเยอะ
หนุ่มสาวที่มีเนื้อจมูกอยู่มากพอสมควร ระหว่างศัลยกรรมแพทย์จะสามารถดึงเนื้อบริเวณสันจมูกมาใช้ได้เยอะครับ เนื่องจากมีความยืดหยุ่นที่สูง จึงทำให้เสริมซิลิโคนได้ง่าย และไม่มีผลข้างเคียงกับจมูกของคนไข้ ครับ
เนื้อจมูกน้อย
ส่วนหนุ่มสาวที่มีเนื้อจมูกน้อย แพทย์จะทำการดึงเนื้อบริเวณสันได้น้อยมาก หรือแทบจะไม่ได้เลยก็มี ซึ่งการแก้ปัญหาดังกล่าวจะต้องมีการเสริมด้วยซิลิโคน แต่จะไม่สามารถเสริมให้สูง หรือมีสันเด่นชัดได้มากนัก เนื่องจากฐานจมูกเดิมมีลักษณะแบนราบ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่ซิลิโคนจะทะลุปลายจมูกได้สูง จึงต้องรองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม หรือกระดูดอ่อนหลังใบหู เพื่อป้องกันภาวะต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับจมูกครับ
วัสดุที่ใช้ในการเสริม ดั้งแหมบ
วัสดุที่นำมาใช้ในการเสริมจมูกจะมีอยู่หลากหลายรูปแบบ เพื่อที่จะสามารถทำให้โครงสร้างใบหน้าเกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน โดยวัสดุที่ทางการแพทย์ให้การยอมรับมีดังนี้
ซิลิโคน
การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนนั้น จะใช้แบบใดไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่คนไข้เป็นผู้เลือกนะครับ แต่ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ด้วยว่ามีความเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน เช่น รูปทรงจมูก เนื้อจมูก รวมถึงฐานของจมูกเป็นต้น โดยซิลิโคนจะถูกแบ่งเป็น 2 มาตรฐานคือ
ซิลิโคนแบบธรรมดา
ส่วนใหญ่จะเหมาะกับหนุ่มสาวที่มีเนื้อจมูกหนา หรือมากพอสมควร เนื่องจากซิลิโคนประเภทนี้จะมีลักษณะค่อนข้างแข็ง หากคนที่มีเนื้อจมูกน้อยเสริมในอนาคตอาจส่งผลให้เกิดภาวะจมูกเบี้ยวเอียง ทะลุ หรือผิดรูปได้ครับ
ซิลิโคนแบบพิเศษ
สำหรับซิลิโคนแบบพิเศษนั้น จะเหมาะกับหนุ่มสาวที่มีเนื้อจมูกน้อย เพราะจะช่วยเสริมให้จมูกดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น รวมถึงบริเวณสันก็จะได้ดูไม่แข็งทื่ออีกด้วย
นอกจากนี้มาตรฐานของซิลิโคนแล้ว ยังมีประเภทของซิลิโคนที่ควรพิจารณาเพิ่มเติมด้วย เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ใช้สำหรับหัตถการเสริมจมูก โดยซิลิโคนมี 2 ประเภทดังนี้
ซิลิโคนสำเร็จรูป
ซิลิโคนแบบสำเร็จรูปนั้นเมื่อเสริมมาแล้ว จะมีโอกาสเกิดความผิดปกติต่าง ๆ ได้น้อยอย่าง จมูกบิดเบี้ยว เอียง หรือทะลุ ซึ่งซิลิโคนที่ทำมาแบบสำเร็จรูป เช่น ซิลิโคนบาร์บี้, ซิลิโคนอเมริกา, ซิลิโคนแมนทิส ซึ่งเป็นซิลิโคนที่ผลิตมาจากโรงงานสำหรับทางการแพทย์ อาจมีการปรับแต่งซิลิโคนเล็กน้อย เพื่อให้เหมาะกับโครงสร้างใบหน้า โดยมีข้อดีที่ได้รูปทรงจมูกที่แน่นอน และมีลักษณะให้เลือกได้หลายเกรด ตั้งแต่แข็งไปจนนิ่มตามความต้องการของคนไข้ครับ
ซิลิโคนเหลาเอง
ซิลิโคนแบบเหลาเองจะเป็นแบบแท่ง หรือบล็อกสี่เหลี่ยม โดยแพทย์จะนำซิลิโคนดังกล่าวมาทำการเหลาออกแบบ หรือดีไซน์ เพื่อให้ได้รูปทรงจมูกตามที่คนไข้ต้องการ รวมไปถึงทำให้เข้ากับโครงสร้างใบหน้าด้วย นั้นหมายความว่าแพทย์ที่ทำการผ่าตัดจำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และความแม่นยำที่ค่อนข้างสูง ซึ่งซิลิโคนเหลาเองจะมีลักษณะเรียบไม่เป็นขุย มีความอ่อน – แข็งหลายระดับ ได้แก่ แข็งมาก, แข็งปานกลาง, นุ่ม, นุ่มมาก แล้วแต่ความเหมาะสมที่แพทย์ทำการประเมินมาครับ
ข้อแตกต่างระหว่างเนื้อเยื่อเทียม vs เนื้อเยื่อตัวเอง
การศัลยกรรมผ่าตัดเสริมจมูกนั้น ในบางกรณีที่เจอคนไข้เนื้อจมูกน้อย แพทย์อาจมีการพิจารณาเพิ่มเติมว่าให้ใช้เนื้อเยื่อเทียม หรือเนื้อเยื่อของตัวเอง สำหรับการเสริมจมูกเพื่อป้องกันภาวะเสี่ยงซิลิโคนทะลุนั่นเองครับ ถึงจะได้ชื่อว่าเนื้อเยื่อเหมือนกันก็ตาม แต่ว่าเนื้อเยื่อทั้งสองแบบนั้นมีความแตกต่างกันออกไป ดังนี้
เนื้อเยื่อเทียม
เนื้อเยื่อเทียมจะเป็นวัสดุที่ถูกสังเคราะห์มาจากคอลลาเจน โดยมีลักษณะเป็นแผ่นนิ่ม ๆ ที่มีโครงสร้างใกล้เคียงกับผิวหนังเรามากที่สุด ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการศัลยกรรม เนื่องจากเป็นนวัตกรรมที่มีข้อดีหลายประการ เช่น
- เหมาะสำหรับคนไข้ที่ต้องการแก้รูปทรงจมูก มีปัญหาจมูกบาง เนื้อบริเวณสันจมูกน้อย สามารถใช้เนื้อเยื่อเทียมในการรักษาได้ครับ
- เนื้อเยื่อเทียมสามารถผสานเป็นส่วนหนึ่งกับ เซลล์ผิว เส้นเลือด และคอลลาเจน เพราะสามารถเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ครับ
- สามารถป้องกันภาวะซิลิโคนทะลุได้ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้คนไข้ส่วนใหญ่แก้จมูกโดยใช้เนื้อเทียมครับ
แต่เมื่อมีข้อดีแล้ว ก็ต้องมีข้อที่ควรระวังไว้ด้วยนะครับ เพราะการเสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียมจะต้องมีความพอดีไม่มาก หรือน้อยจนเกินไป เนื่องจากจะทำให้รูปทรงจมูกดูแปลกตา ไม่เป็นธรรมชาตินั่นเองครับ
เนื้อเยื่อตัวเอง
เนื้อเยื่อตัวเองจริง ๆ แล้วก็คือกระดูกอ่อนที่อยู่ส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งทางการแพทย์จะนิยมนำมาใช้สำหรับการเสริมปลายจมูกอยู่ 3 ส่วนดังนี้
- กระดูกอ่อนหลังใบหู
- กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก
- กระดูกอ่อนซี่โครง
เนื่องจากเป็นเนื้อเยื่อของตัวเอง จึงทำให้คนไข้ที่มาทำการแก้จมูกไม่ต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับอาการแพ้เลยครับ อีกทั้งยังช่วยรอง หรือเสริมปลายจมูก ให้ดูโดดเด่นเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิมอีกด้วยครับ
ดั้งแหมบ รักษาที่ไหนดีเลือกจากปัจจัยอะไร
ถ้าคนที่ต้องการแก้จมูก หรือมีปัญหาดั้งแหมบ ทุกคนน่าจะตั้งคำถามว่าควรเสริมจมูกที่ไหนดีใช่มั้ยครับ ซึ่งในบทความนี้ผมจะมาเผยเคล็ดลับน่ารู้เกี่ยวกับการเลือกสถานพยาบาลต่าง ๆ ว่าต้องดูจากปัจจัยอะไรบ้างดังนี้เลยครับ
แพทย์
แพทย์ดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง เรื่องนี้ไม่เกินจริงครับ ยิ่งด้วยหัตถการที่มีความเสี่ยง การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญย่อมเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ซึ่งสามารถทำการตรวจสอบได้จากใบประกอบวิชาชีพ หรือเช็คความน่าเชื่อถือโดนตรงจากเว็บแพทย์สภาก็ได้ครับ
สถานพยาบาล
สถานประกอบการ หรือสถานพยาบาลนั้น ต้องมีความ สะอาด ปลอดโปร่งทั้งภายใน – ภายนอก รวมถึงต้องมีสถานที่ตั้งอยู่จริงสามารถตรวจสอบได้ และสถานพยาบาลต้องมีใบประกอบกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อสร้างมาตรฐาน และความน่าเชื่อถือ
บริการ
การบริการต่าง ๆ ของสถานพยาบาลต้องมีความพร้อมของพนักงาน และทีมแพทย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คนไข้ที่มาเข้าใช้บริการ รวมถึงทั้งสองฝ่ายต้องสามารถตอบคำถามได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ตรงประเด็นตามปัญหาของคนไข้แต่ละบุคคล ซึ่งหากสถานพยาบาลไม่มีการดูแล หรือมีการต้อนรับที่ดีอาจจะไม่เหมาะในการเข้ารับการรักษา
รีวิว
รีวิวต่าง ๆ จากสถานพยาบาล หรือสื่อโซเชียล ก็ถือว่าเป็นการการันตีถึงฝีมือของแพทย์ได้นะครับ ซึ่งการรีวิวได้กลายเป็นการสร้างความน่าเชือถืออย่างหนึ่ง ของสถานที่นั้น ๆ แต่เพราะปัจจุบันการแข่งขันทางโลกออนไลน์เริ่มมีมากจนเกินไป คนไข้ก็อาจพบกับสถานพยาบาลที่บิดเบือนข้อมูลได้นะครับ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้หลงเชื่อโฆษณาที่ดูเกินจริง ควรศึกษาข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจเข้าใช้บริการนะครับ
การเตรียมตัวก่อนเสริม ดั้งแหมบ
เมื่อคนไข้ตัดสินใจได้แล้วว่า ต้องการเสริมจมูกอย่าพึ่งรีบร้อนนะครับ เพราะยังมีสิ่งสำคัญที่ควรรู้อยู่นั่นเอง ซึ่งก่อนวัดนัดผ่าตัดคนไข้น่าจะได้เข้ารับคำปรึกษากับแพทย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแพทย์จะมีการแนะนำให้คนไข้ได้ปฏิบัติตามดังนี้
- งดทานยากลุ่มแอสไพริน หรือยาแก้ปวดต่าง ๆ เนื่องจากมีผลต่ออาการบวมฟกช้ำ และเลือดคั่งหลังผ่าตัดเสริมจมูกครับ
- งดการสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 – 4 สัปดาห์ เนื่องจากมีสารบางชนิดที่ส่งผลทำให้แผลผ่าตัดหายได้ช้ากว่าปกติครับ
- งดรับประทานอาหารทะเล หรือของหมักดองอย่างน้อย 1 เดือน เพราะจะส่งผลให้แผลผ่าตัดมีอาการบวม หายช้ำได้ช้าครับ
- งดการอาบน้ำสระผม หรือแต่งหน้าทุกกรณีจนกว่าแผลบริเวณที่ผ่าตัดมาจะหายดี เนื่องจากมีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ง่ายครับ
- หากทางแพทย์แจ้งว่าไม่มีการดมยา หรือวางยานอนหลับ คนไข้สามารถรับประทานอาหาร และน้ำได้ตามปกติ ไม่ต้องงดครับ
- ในวันนัดผ่าตัดแนะนำให้ใส้เสื้อผ้าที่สวยใส่สบาย หรือใส่เสื้อที่ติดกระดุมหน้า เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว และลดโอกาสเสี่ยงที่เสื้อผ้าจะไปเสียดสีบริเวณที่ผ่าตัดมาครับ
เทคนิคที่ใช้ในการเสริม ดั้งแหมบ
ในส่วนของเทคนิคที่นำมาใช้สำหรับการศัลยกรรมผ่าตัดเสริมจมูกนั้น จะมีอยู่ 2 เทคนิคที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง เนื่องจากสามารถแก้ไขปัญหารูปทรงจมูกต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม ซึ่งทั้งสองเทคนิคก็มีความแตกต่างในการปรับโครงสร้างจมูกดังนี้
การเสริมจมูกแบบเปิด(Open Technique)
ถือว่าเป็นเทคนิคที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด เนื่องจากเป็นเทคนิคที่แพทย์ต้องทำการเปิดโพรงจมูก เพื่อให้เห็นโครงสร้างกระดูกอ่อนทั้งหมด รวมไปถึงเห็นแนวสันจมูกได้อย่างชัดเจน และทำให้แพทย์สามารถปรับแต่งรูปทรงได้สะดวก แถมยังหลีกเลี่ยงการใช้ซิลิโคนที่ไม่จำเป็น ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดูสวยแบบธรรมชาติ
ส่วนรอยแผลผ่าตัดของเทคนิคแบบเปิด จะมีอยู่ทั้งด้านใน – ด้านนอกจมูก ซึ่งจะเป็นรอยแผลเล็ก ๆ บริเวณตรงกลางระหว่างรูจมูก เมื่อเวลาผ่านไปรอยแผลจะค่อย ๆ จางหายไปได้เองครับ
การเสริมจมูกแบบปิด(Closed Technique)
เทคนิคกแบบปิดนั้นจะเป็นการเสริมจมูกเพื่อให้ดั้งดูโด่ง โดยใช้ซิลิโคน หรือวัสดุอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกันแบบไม่ต้องปรับโครงสร้างกระดูกอ่อน จึงอาจมีความซับซ้อนน้อยกว่าการเสริมแบบเปิด แต่ว่าเทคนิคแบบปิดจะทำให้รูปทรงจมูกไม่พุ่งมาก และอาจจะต้องเสริมปลายจมูกเพิ่มเติมด้วย เนื้อเยื่อเทียม หรือเนื้อเยื่อตัวเอง เพื่อป้องกันภาวะซิลิโคนทะลุ
ถึงอย่างไรก็ตามเทคนิคทั้งสองแบบนั้น ก็มีความแตกต่างของขั้นตอนในการรักษา และการแก้ปัญหารูปทรงจมูก เพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ การเสริมแบบปิดคือการผ่าตัดเล็กที่ไม่ต้องดมยา หรือวางยานอนหลับใช้เวลาประมาณ 30 – 60 นาที เป็นการแก้ หรือเสริมจมูกโดยใช้ซิลิโคนเป็นหลัก ส่วนการเสริมแบบเปิดจะเป็นการแก้ไข้โครงสร้างภายในจมูกอย่างละเอียด จึงจำเป็นต้องวางยานอนหลับ และมีเวลาในการผ่าตัดนานกว่าแบบปิดครับ แต่ทั้งสองเทคนิคควรรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย และได้รูปทรงจมูกที่เป็นธรรมชาตินั่นเองครับ
วิธีการดูแลรักษาหลังเสริม ดั้งแหมบ
หลังจากที่คนไข้ผ่านการเสริมจมูกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลำดับต่อมาก็คือวิธีการดูแลรักษา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะสามารถส่งผลงกับรูปทรงจมูกของคนไข้ได้เลยครับ โดยแพทย์จะแนะนำให้คนไข้ปฏิบัติตามวิธีต่าง ๆ อย่างเคร่งครัดดังนี้
- แนะนำให้ทำการประคบเย็นทุกวัน ด้วยคลูแพ็ค หรือผ้าเย็นบริเวณรอบ ๆ แผลผ่าตัด เพราะสามารถช่วยลดอาการบวมลงได้ครับ
- เมื่อแผลเริ่มแห้งสนิทแล้ว ให้เปลี่ยนจากการประคบเย็นมาเป็น การประคบอุ่นแทน เพื่อลดอาการช้ำ เขียว จนกว่าจะกลับมาเป็นปกติครับ
- หลีกเลี่ยงการแคะ แกะ เกา บีบ จับ ขยี้ หรือสั่งน้ำมูกแรง ๆ เพราะอาจส่งผลทำให้แผลผ่าตัดฉีกขาดได้ครับ
- งดรับประทานอาหารที่เน้นการเคี้ยวบ่อย ๆ อย่างข้าวเหนียว ขนมกรุบกรอบ หรือของแข็ง เพื่อลดการกระทบกระเทือนบริเวณแผลผ่าตัดครับ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่กึ่งสุกกึ่งดิบ อาหารหมักดอง หรืออาหารรสชาติจัดจ้าน เพราะอาจส่งผลต่อการอักเสบของแผล ซึ่งจะทำให้แผลหายได้ช้าครับ
- งดการสูบหรี่ และแอลกอฮอล์ทุกชนิดประมาณ 1 เดือน เพื่อให้แผลทำการสมานก่อน หากห้ามใจไม่ไหวอาจส่งผลทำให้แผลสมานได้ช้าลงครับ
- งดการเล่นกีฬาหนัก ๆ เช่น ว่ายน้ำ วิ่ง การมีเพศสัมพันธ์ ร่วมไปถึงการออกกำลังกายทุกชนิด เพราะอาจส่งผลทำให้รูปทรงจมูกเกิดความผิดปกติได้ครับ
- หากมีอาการผิดปกติ หรือเลือดบริเวณแผลผ่าตัดไหลออกมาเยอะ แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ทันทีครับ
ฉะนั้นการเสริมจมูกนอกจากจะต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ในการผ่าตัดแล้ว ยังต้องขอความร่วมมือจากคนไข้ที่มีปัญหา ดั้งแหมบ สำหรับการปฏิบัติตามขั้นตอน ในการดูแลรักษาอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีเป็นที่พึงพอใจของคนไข้ อีกทั้งยังทำให้ดูสวยแบบธรรมชาติ และมีรูปทรงจมูกที่ถูกใจอยู่ได้อย่างยาวนานนั่นเองครับ