สำหรับหนุ่ม ๆ หรือสาว ๆ ที่อยากเสริมจมูก เพื่อให้จมูกได้ทรงสวยเข้ากับโครงสร้างใบหน้า แต่ติดตรงที่ว่า กลัว จมูกทะลุ ซึ่งเป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ แถมยังอันตรายจนถึงขั้นเสียโฉมได้ และเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้หลายคนต้องกลับมาแก้จมูกอยู่บ่อย ๆ แต่จะทำยังไงเมื่อเกิดเหตุการณ์จมูกทะลุ จะมีวิธีรักษาอย่างไร หรือมีวิธีป้องกันหรือไม่ ในบทความนี้ผมขอรวบรวมข้อมูล เพื่อมาตอบคำถามที่ทุกคนสงสัยช่วยไขปัญหา และคลายความกังวลนะครับ
นอกจากนี้ใครที่ต้องการเสริมจมูก หรือเตรียมตัวจะเสริมจมูกในอนาคต แต่กังวลว่าจมูกที่ทำมาจะเกิดอาการทะลุ ผมมีวิธีสังเกตสัญญาณเตือนต่าง ๆ มาฝาก เพื่อให้หนุ่ม ๆ หรือสาว ๆ รู้ตัว และเตรียมรับมือได้ทันครับ
- สังเกตบริเวณปลายจมูก
โดยบริเวณปลายจมูกมักจะพบว่ามีอาการผิดปกติที่สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย ๆ ทั้งหมด 3 อาการ คือ
- ผิวที่ปลายจมูกบาง หรือสังเกตว่าจมูกจะมีความมันวาวมากกว่าปกติ จมูกสะท้อนแสงได้ หรือมีสีขาว ๆ ใส ๆ ซึ่งในบางเคสสามารถมองเห็นรูปทรงซิลิโคนได้เลย
- เนื้อที่ปลายจมูกแดงมากขึ้น คือลักษณะสีผิวบริเวณปลายจมูกแตกต่างไปจากเดิมจนสังเกตเห็นได้ชัด โดยอาจมีสีขาวซีด แดง หรือดำคล้ำ ดูแล้วไม่เสมอกันกับส่วนอื่นของใบหน้า
- เกิดสิวที่ปลายจมูก โดยเฉพาะเป็นสิวหัวช้าง ซึ่งไม่ว่าจะทานยาไปเท่าไหร่ก็ไม่ยุบ หรือไม่หาย แถมยังเกิดการอักเสบลุกลาม ทำให้เนื้อเยื่อที่หุ้มซิลิโคนเสริมจมูกเกิดอาการอักเสบ และติดเชื้อได้ ซึ่งการอักเสบนี้จะส่งผลทำให้ผิวหนังบริเวณจมูกบางลง เป็นสาเหตุทำให้ซิลิโคนทะลุได้นั่นเองครับ
- ใช้มือลูบที่ปลายจมูกแล้วรู้สึกเสียว นั่นอาจหมายถึงว่าผิวบริเวณจมูกของหนุ่ม ๆ หรือสาว ๆ เริ่มบางแล้ว
- จมูกเริ่มยาว และงุ้มลงกว่าเดิม ซึ่งอาจเกิดจากการที่ซิลิโคนเริ่มเคลื่อนที่ลงมา (Migration) ซึ่งนี่จะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้จมูกทะลุได้
- จมูกเริ่มมีร่อง หรือรอยบุ๋ม หากทำการเสริมจมูกมาเป็นเวลานานมาก แล้วจมูกเริ่มมีร่อง มีรอยบุ๋มต่าง ๆ บนตำแหน่งต่าง ๆ บริเวณจมูก ควรจะไปให้ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบทันที เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าจมูกกำลังจะทะลุแล้วครับ
- มีซิลิโคนทะลุออกมา บางทีจมูกทะลุก็อาจไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ นอกจากซิลิโคนจะทะลุออกมาให้เห็นแล้ว โดยคุณจะสังเกตเห็นปลายขาของซิลิโคนที่ปลายจมูกได้เลย
จมูกทะลุ เกิดจากอะไรได้บ้าง
หากพบว่ามีอาการที่เริ่มบ่งบอกว่าจมูกทะลุ หรือพบว่า จมูกมีซิลิโคนทะลุออกมาแล้ว ห้ามทำการดึงออกเองโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้งานแก้จมูกทำได้ยากมากขึ้น แนะนำให้เข้าพบแพทย์ทันที เพื่อให้แพทย์วินิจฉัย และทำการรักษาโดยเร็ว ซึ่งจะช่วยลดปัญหาเรื่องการผิดรูปได้ดีที่สุด
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการจมูกทะลุ หรือซิลิโคนทะลุหลังจากเสริมจมูกไปแล้ว เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน โดยมีสาเหตุอะไรบ้างที่หนุ่ม ๆ หรือสาว ๆ เข้าข่ายไปดูกันครับ
- ใส่ซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม
สาเหตุหลัก ๆ มักเกิดจากการใส่ซิลิโคนที่มีขนาดไม่เหมาะสมกับจมูก เช่น ยาวเกินไป, แหลมเกินไป, และหนาเกินไป ซึ่งถือว่าเป็นการฝืนเนื้อเยื่อมากเกินไป ยิ่งถ้าเป็นคนที่มีเนื้อจมูกน้อย เมื่อเสริมจมูกที่มีปลายพุ่งมากเกินไป อาจทำให้ตัวซิลิโคนไปกดเนื้อบริเวณนั้น จนทำให้ขาดเลือดมาหล่อเลี้ยง ผิวตรงบริเวณที่ถูกกด เมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะทะลุออกมาได้เองครับ
- ใส่ซิลิโคนไม่ได้มาตรฐาน
สำหรับหนุ่ม ๆ หรือสาว ๆ ที่เน้นทำจมูกราคาถูก หรือมีงบน้อย ส่วนมากจะไม่ได้ทำการตรวจสอบสถานพยาบาล และแพทย์ที่จะเข้ารับการผ่าตัดให้ดีก่อนตัดสินใจไปทำ อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้เกิดอาการจมูกทะลุได้ จากการที่แพทย์ใช้ซิลิโคนไม่ได้มาตรฐาน หรือผลิตจากวัสดุที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ยืดหยุ่น และเป็นซิลิโคนปลอมนั่นเองครับ
- แก้จมูกติดกันบ่อย ๆ
ซิลิโคนที่อยู่ภายในถูกรบกวน หรือพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ บางคนอาจเคยทำจมูกมาแล้ว แต่ “ รูปทรงจมูก ” ไม่ถูกใจ จึงจำเป็นต้องแก้จมูกแบบแก้แล้ว แก้อีกซ้ำไปซ้ำมา ซึ่งจริง ๆ แล้วการแก้ไขจมูกเดิมต้องรออย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป จึงสามารถผ่าตัดแก้จมูกได้อีกครั้ง เพราะถ้าแก้เลยหลังเสริมมาใหม่ภายในไม่กี่เดือน จะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ การอักเสบ และแผลจะเย็บไม่ติดกันได้ง่าย นอกจากนี้ยังรวมถึงพฤติกรรมที่ชอบแคะ แกะ เกาจมูกอยู่บ่อย ๆ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้จมูกทะลุได้เช่นกันครับ
- การอักเสบและการติดเชื้อ
การอักเสบ และการติดเชื้อหลังจากการเสริมจมูก หากติดเชื้อไม่รุนแรง หนุ่ม ๆ หรือสาว ๆ จะมีอาการบวมยุบแบบไม่คงที่ อาจมีน้ำเหลือง หรือเลือดไหลออกจากด้านในจมูก รวมถึงรอยแผลผ่าตัด ร่วมกับมีอาการบวมแดง และปวด ส่วนจมูกติดเชื้ออย่างรุนแรง สีผิวหนังจมูกจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีดำ เนื่องจากซิลิโคนกินเนื้อจมูก ทำให้เนื้อยุบ จมูกเน่า จมูกทะลุ และจมูกหลุดตามมาได้ครับ
- การวางตำแหน่งของซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม
หากแพทย์ทำการวางตำแหน่งของซิลิโคนไม่เหมาะสม อาจส่งผลทำให้เกิดการเบี้ยว เอียง ทำให้มีแรงกดต่อเนื้อเยื่อในตำแหน่งที่ไม่ต้องการ จนเกิดการทะลุได้ในที่สุด ในทางที่ดีควรศึกษาข้อมูล และเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ สามารถทำการประเมินโครงหน้า หรือเลือกรูปทรงที่เหมาะสมกับจมูกให้เข้ากับใบหน้าได้ดี เพื่อความปลอดภัยของหนุ่มสาวทุกท่านนะครับ
อันตรายจากจมูกทะลุ
อาการจมูกทะลุค่อนข้างอันตรายมาก ๆ หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา เนื่องจากสามารถทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนได้ เนื่องจากจมูกทะลุสามารถนำไปสู่อาการอักเสบ และติดเชื้อในโพรงจมูก รวมถึงเชื้อโรคต่าง ๆ จากภายนอกก็สามารถเข้าไปในโพรงจมูกได้ง่าย ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อ เมื่อมีการอักเสบจะเสี่ยงเกิดการทะลุมากขึ้น อาการอาจจะรุนแรงถึงขั้นสามารถติดเชื้อเข้ากระแสเลือดได้ จึงควรรีบรักษาให้ทันท่วงที ไม่ควรปล่อยทิ้งเอาไว้นาน ๆ นะครับ
วิธีป้องกัน & รักษาจมูกทะลุ
วิธีการป้องกัน และรักษาจมูกทะลุจะมีความแตกต่างกันอยู่ไม่มากครับ หากเป็นการรักษาจะสามารถทำการแก้แล้วใส่ซิลิโคนใหม่ โดยทำการแก้ไขทรงให้เหมาะสมกับความยืดหยุ่นของเนื้อจมูกของหนุ่ม ๆ หรือสาว ๆ ครับ
ไหน ๆ ก็จะเสริมจมูกทั้งที คงไม่อยากให้แก้ไขบ่อย ๆ หรือเกิดการทะลุได้ง่าย ให้ต้องมาเสียทั้งเงิน เวลา และต้องมาเจ็บตัวซ้ำ ๆ ดังนั้นจึงควรศึกษา และเรียนรู้วิธีป้องกันรวมถึงดูแลไม่ให้จมูกเกิดทะลุขึ้น โดยขั้นตอนการป้องกัน และรักษามี ดังนี้
- การรักษาจมูกทะลุ
- แพทย์จะทำการผ่าตัดนำซิลิโคนเดิมออก หลังจากนั้นจะให้หนุ่ม ๆ หรือสาว ๆ ทำการพักฟื้น เพื่อรอปรับสภาพของเนื้อจมูกเป็นระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งต้องเข้าใจก่อนนะครับว่า ที่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น เพราะเนื้อบริเวณจมูกจะยังไม่แข็งแรง จึงไม่สามารถใส่ซิลิโคนหรืออุปกรณ์ตกแต่งจมูกได้ในทันที
- หลังจากพักฟื้นจนดีขึ้นตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำแล้ว แพทย์จะสามารถทำการผ่าตัดแก้ไขจมูกได้ โดยการนำกระดูกอ่อนหลังหู หรือเนื้อเยื่อหลังหูมารองที่บริเวณปลายจมูก เพื่อเพิ่มความหนา และลดความเสี่ยงจมูกทะลุ จากนั้นแพทย์จะใส่ซิลิโคนใหม่เข้าไป แต่อาจจะต้องลดขนาดความโด่งพุ่งของจมูกลงให้พอดีกับสภาพของเนื้อจมูกของหนุ่ม ๆ หรือสาว ๆ ในปัจจุบันแทนครับ
ส่วนในเคสที่จมูกทะลุแล้ว และมีเนื้อตายปริมาณมาก แพทย์อาจจะต้องย้ายเนื้อจากบริเวณอื่นมาแทน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สามารถผ่าตัดได้ในครั้งเดียวจบ ต้องทำการตัดแต่งผ่าตัดหลายครั้ง และยังคงเหลือรอยแผลเป็นทิ้งเอาไว้อีกด้วย
- การป้องกันจมูกทะลุ
- แนะนำให้หาข้อมูลเกี่ยวกับสถานพยาบาลที่ต้องการเสริมจมูกให้ครบถ้วน ดูว่ามีมาตรฐาน น่าเชื่อถือหรือไม่ ทีมแพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญด้านการเสริมจมูก รวมถึงมีรีวิวจากผู้เข้าใช้บริการจริงให้ดูถึงเทคนิค และฝีมือของแพทย์
- ซิลิโคนที่นำมาใช้จะต้องมีคุณภาพ ตามมาตรฐานการศัลยกรรมสากล แม้อาจจะมีราคาที่สูงกว่าปกติเล็กน้อยก็ถือว่าเป็นการเลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเอง
- เข้ารับคำปรึกษา และการประเมินจมูกอย่างละเอียดจากแพทย์ก่อนผ่าตัดเสริมจมูก โดยแพทย์จะต้องทำการเหลาปรับแต่งซิลิโคนให้เหมาะสมกับใบหน้าของคนไข้ทุกครั้ง และไม่ใส่ซิลิโคนที่ฝืนเนื้อเดิมของคนไข้
- ควรเลือกทำจมูกกับสถานพยาบาลที่มีบริการให้คำแนะนำทั้ง ก่อน – หลังทำ เมื่อเกิดปัญหาจะได้แก้ไขอย่างทันเวลา
เมื่อจมูกเกิดการทะลุของซิลิโคน จะทำให้มีโอกาสเสี่ยงระหว่างสิ่งแวดล้อมภายนอกกับเนื้อเยื่อภายในจมูก ทำให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนได้ ทางที่ดีที่สุดคือ เลือกสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ สามารถรับรองความปลอดภัย และให้คำปรึกษาหลังการทำศัลยกรรมจมูกได้ มีการติดตามดูแล ทั้งก่อน และหลังผ่าตัดเพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงหลังจากทำจมูกที่อาจขึ้นได้ในทุกกรณี