ศูนย์ศัลยกรรมจมูกโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

แน่นอนว่าจมูกถือเป็นตัวกำหนดองค์ประกอบโดยรวมของใบหน้า ซึ่งใบหน้าแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ ลักษณะทางพันธุกรรม ทำให้บางคนอาจจะมีลักษณะรูปทรงจมูกที่แตกต่างกันออกไป เช่น เนื้อจมูกหนา จมูกเบี้ยวเอียง จมูกชมพู่ รูจมูกเชิดหรือไม่เท่ากัน ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการเข้าสังคม ดังนั้นการศัลยกรรมจมูกจึงเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะนอกจากช่วยให้ใบหน้าดูโดดเด่นเป็นธรรมชาติ มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นแล้ว ยังสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

ศัลยแพทย์จะประเมินราคาและปัญหาของคนไข้จากลักษณะโครงสร้างจมูกเดิมของคนไข้ รวมไปถึงการเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหา โดยเทคนิคที่นิยมใช้ในการทำผ่าตัดได้แก่ เทคนิคแบบเปิด (Open Rhinoplasty) และเทคนิคแบบปิด (Close Rhinoplasty)

บริการของเรา

โปรโมชั่น

รีวิว

ศัลยกรรมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) คืออะไร ??

เป็นเทคนิคที่ช่วยแก้ไขรูปร่างจมูก  ซึ่งเผยให้เห็นสรีระโครงสร้างของจมูกจริงได้ทุกส่วนอย่างชัดเจน จากการเปิดแผลบริเวณฐานตรงปลายของรูจมูกทั้งสองข้าง ทำให้ศัลยแพทย์สามารถวิเคราะห์ปัญหาต่างๆและปรับโครงสร้างภายในของจมูก  เช่น ปัญหาสันจมูกคด สันจมูกเป็นฮัมพ์ ขนาดใหญ่ จมูกงุ้ม ปลายจมูกใหญ่ ฐานจมูกใหญ่ จมูกชมพู่ จมูกเบี้ยว เอียง ปลายจมูกสั้น ถ้าต้องการให้จมูกโด่งมาก จะไม่สามารถใช้ซิลิโคนอย่างเดียวได้ ศัลยแพทย์นิยมใช้กระดูกอ่อนจากส่วนต่างๆของร่างกายร่วมด้วย  เช่น กระดูกอ่อนหลังหู (Ear cartilage) กระดูกอ่อนแกนจมูก (Septal cartilage) และกระดูกซี่โครง (Costal cartilage) เพื่อให้จมูกมีความยาวเพิ่มขึ้น โด่งขึ้น ไม่เสี่ยงต่อการทะลุ เมื่อแผลหายสนิทดีแล้วจะได้รูปทรงจมูกที่สวยงามและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ข้อดีของการศัลยกรรมแบบเปิด

ข้อดีของการศัลยกรรมแบบเปิด

  1. สามารถแก้ไขปัญหารูปทรงจมูกได้ทุกรูปแบบ เนื่องจากเห็นโครงสร้างของจมูกทั้งหมด
  2. ลดโอกาสการเกิดปัญหาการเบี้ยวเอียงของซิลิโคน
  3. ลดปัญหาการทะลุ สัมผัสเนียนไร้รอยต่อของซิลิโคน
  4. ลดขนาดฐานจมูกให้แคบลง สันจมูกเรียวเล็กลงสวยเป็นธรรมชาติ ออกแบบให้ตรงตามรูปทรงที่ต้องการมากที่สุด
  5. รองปลายด้วยเนื้อเยื่อของร่างกาย
  6. ยืดผนังกั้นจมูกให้ยาวขึ้น เย็บ Interdome, intercourse, interfoot ฐานแข็งแรง ปลายพุ่งมากกว่าเดิม

ข้อควรระวังในการผ่าตัดแบบเปิด

  1. ใช้เวลาในการผ่าตัดนาน
  2. ระยะเวลาพักฟื้นนานกว่า
  3. ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
  4. มีแผลตรงกลางจมูกเล็กน้อย

การศัลยกรรมจมูกแบบปิด (Close Rhinoplasty) คืออะไร??

เป็นการเปิดแผลจากด้านใน ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ทรงจมูกดีอยู่แล้ว แต่ต้องการความโด่งพุ่งให้กับจมูก อีกทั้งรอยแผลยังมีขนาดเล็กและมองไม่เห็นจากภายนอก  โดยศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดเปิดแผลจากด้านในรูจมูกและใส่ซิลิโคนแท่งที่ถูกเหลาเป็นทรงตามความเหมาะสมเข้าไปทางปากแผลที่เปิดด้านในรูจมูก หรืออาจจะทำการเสริมจมูกร่วมกับการใช้กระดูกอ่อนหลังหูหรือเนื้อเยื่อมาเสริมบริเวณปลายจมูกเพื่อลดการทะลุของซิลิโคน

ข้อดีของการ ศัลยกรรมจมูกแบบปิด

  1. ราคาถูกกว่าการเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty)
  2. ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นด้านนอก เพราะเป็นการผ่าตัดด้านในรูจมูก
  3. การดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก บวมช้ำน้อย ระยะเวลาในการพักฟื้นสั้น 
  4. ไม่จำเป็นต้องวางยาสลบ เพราะเป็นการผ่าตัดที่ไม่ซับซ้อนมาก ใช้เวลาไม่นาน
การศัลยกรรมจมูกแบบปิด (Close Rhinoplasty) คืออะไร
ข้อดีของการศัลยกรรมจมูกแบบไม่ใช้ซิลิโคน (No Silicone)

การศัลยกรรมจมูกแบบไม่ใช้ซิลิโคน (No Silicone) คืออะไร

 เป็นการผ่าตัดแก้ไขโครงสร้างจมูกด้วยเทคนิคเกาหลีแบบเปิด (Open Rhinoplasty) จะเผยให้เห็นสรีระโครงสร้างของจมูกจริงได้ทุกส่วน จึงสามารถแก้ไขปัญหาโครงสร้างจมูกได้โดยที่ไม่ใช้ซิลิโคน เทคนิคนี้จัดเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการให้จมูกดูเป็นธรรมชาติโดยที่ไม่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย เทคนิคการเสริมจมูกนี้ สามารถแก้ไขโครงสร้างจมูกได้ทั้งส่วนปลายจมูกและสันจมูก 
     ในส่วนผู้ที่ต้องการแก้จมูก หรือเคยทำจมูกโดยการฉีดสารเหลว แล้วเกิดการอักเสบบริเวณจมูก จมูกเคยติดเชื้อมาก่อน การผ่าตัดเสริมจมูกแบบใช้ซิลิโคนทั่วไปอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ดังนั้น การทำจมูกแบบไร้ซิลิโคนจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้ เนื่องจากเป็นการใช้กระดูกอ่อนภายในร่างกายของผู้ผ่าตัดเอง เช่น กระดูกอ่อนกึ่งกลางจมูก กระดูกอ่อนซี่โครง กระดูกอ่อนใบหู ทำให้ร่างกายเกิดการต่อต้านได้น้อย ไม่เกิดการแพ้ และสามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต

ข้อดีของการศัลยกรรมจมูกแบบไม่ใช้ซิลิโคน (No Silicone)

  1. ในการเสริมจมูกแบบทั่วไป ศัลยแพทย์จะเลือกใช้ซิลิโคนเกรดทางการแพทย์ใส่เข้าไปบริเวณจมูกของคนไข้ ส่งผลให้ร่างกายของคนไข้บางรายที่มีการตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอม เช่น การแพ้ซิลิโคน เกิดซิลิโคนทะลุ แต่ถ้าเป็นการเสริมจมูกแบบไม่ใช้ซิลิโคน (No Silicone) จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาเหล่านี้เพราะเป็นการใช้วัสดุจากร่างกายของตัวเราเอง
  2. แบบใช้ซิลิโคน มักจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการเสริมจมูก เช่น กรณีที่เสริมจมูกโด่งมากเกินไป และคนไข้มีเนื้อเยื่อหุ้มจมูกบาง อาจเกิดการทะลุของซิลิโคนได้
  3. ในส่วนของผู้ที่เคยมีปัญหาการอักเสบ ติดเชื้อ หรือใช้สารเหลวบริเวณจมูกมาก่อน ไม่ควรเสริมจมูกแบบซิลิโคน เพราะอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆตามมา ดังนั้นการศัลยกรรมจมูแบบไม่ใช้ซิลิโคน (No Silicone) จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีปัญหาเหล่านี้
การศัลยกรรมจมูกแบบไม่ใช้ซิลิโคน-No-Silicone-คืออะไร.

รางวัล

เกี่ยวกับเรา

ข้อมูลติดต่อกลับ

ข่าวสารต่างๆ

แผนที่

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save